SEC สหรัฐฯ เคาะแล้ว! Liquid Staking ไม่ถือเป็นหลักทรัพย์ เปิดทางสถาบันลงทุนเต็มสูบ

วงการคริปโตได้เฮกันถ้วนหน้า หลัง คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ออกแนวทางล่าสุดเกี่ยวกับ Liquid Staking โดยระบุว่า ในบางเงื่อนไข การทำกิจกรรม Liquid Staking และเหรียญ LST (Liquid Staking Token) ไม่ถือว่าเข้าข่ายเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ (Securities Offering)

แนวทางใหม่นี้เปิดทางให้ผู้พัฒนาและนักลงทุนสามารถสร้างผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ LST ได้อย่างมั่นใจมากขึ้น ทั้งในฝั่ง DeFi และฝั่งของสถาบันการเงินดั้งเดิม

Liquid Staking คืออะไร?

Liquid Staking คือการนำเหรียญคริปโตไปฝากไว้กับผู้ให้บริการ Third Party เพื่อรับรางวัลจากการ Stake โดยผู้ฝากจะได้เหรียญแทนการถือครอง (เรียกว่า staking receipt tokens) ซึ่งสามารถนำไปใช้ในโลก DeFi เช่น เทรด ยืม หรือเข้าร่วมฟาร์มได้ทันที โดยไม่ต้องรอถอนการ Stake ก่อน

แนวทางจาก SEC ระบุว่าหากผู้ให้บริการทำหน้าที่เพียงแค่ “เชิงเทคนิคหรือแอดมิน” เช่น ออกโทเคนเพื่อแทนการถือครองเหรียญ ไม่ได้มีลักษณะการระดมทุนหรือบริหารจัดการผลตอบแทนแทนผู้อื่น ก็อาจ ไม่เข้าข่ายหลักทรัพย์ตามบททดสอบ Howey Test

เปิดประตูสู่สถาบัน และการใช้งานที่กว้างขึ้น

Mara Schmiedt ซีอีโอของ Alluvial ให้ความเห็นว่า แนวทางนี้จะทำให้ LSTs กลายเป็นส่วนหนึ่งของผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่สถาบันสามารถใช้ได้ ซึ่งจะช่วยเปิดโอกาสใหม่ ๆ ทั้งในด้านการสร้างรายได้และขยายฐานลูกค้า

ขณะเดียวกัน Lucas Bruder ซีอีโอของ Jito Labs ก็แสดงความพอใจโดยชื่นชมว่า SEC แสดงความเข้าใจต่อเทคโนโลยี LST ได้ดี จากการที่เคยหารือกันมาเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

แม้จะได้รับเสียงสนับสนุนอย่างล้นหลามจากวงการคริปโต แต่ด้านในของ SEC เองก็ยังมีเสียงคัดค้าน โดยกรรมาธิการ Caroline Crenshaw เตือนว่า แนวทางนี้อาจ “สร้างความสับสนมากกว่าความชัดเจน” พร้อมระบุว่าแนวคิดของ SEC ยังคงอิงกับสมมติฐานที่ไม่แข็งแรง

ส่งผลต่อ DeFi และนักลงทุนรายย่อยโดยตรง

นอกจากผลต่อฝั่งสถาบันแล้ว การเคลื่อนไหวนี้ยังจะช่วยส่งผลบวกต่อแพลตฟอร์ม DeFi ที่เน้นให้ผู้ใช้เข้าถึงรางวัลการ Stake ได้ง่ายขึ้น โดยไม่ต้องล็อกเหรียญ ทำให้เกิด สภาพคล่องในตลาด มากขึ้น และมีการสร้างนวัตกรรมใหม่ในฝั่ง DeFi เพิ่มขึ้นอีกด้วย

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ defi-planet.com