ก.ล.ต. คุมเข้ม! ออกกฎใหม่ผู้ประกอบการคริปโตต้องร่วมรับผิดชอบ หากปล่อยให้มี “บัญชีม้า”

สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ออกหลักเกณฑ์ใหม่กำหนดมาตรฐานและมาตรการป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี สำหรับผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล โดยกำหนดให้ ผู้ประกอบการต้อง “ร่วมรับผิดชอบ” (Shared Responsibility) หากละเลยจนลูกค้าได้รับความเสียหายจากการไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานที่กำหนด ตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีฯ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 13 สิงหาคม 2568

หนึ่งในปัญหาหลักที่ถูกจับตามอง คือ “บัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัล” ที่ถูกใช้เป็นช่องทางปกปิดตัวตนของผู้กระทำผิด คล้ายกับบัญชีม้าธนาคาร แต่ซับซ้อนกว่ามาก ทำให้ติดตามและปิดกั้นได้ยากขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ร่วมมือกับ สมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO) และหน่วยงานรัฐหลายแห่ง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ธนาคารแห่งประเทศไทย ปปง. และสมาคมธนาคารไทย ในการแลกเปลี่ยนข้อมูลและสกัดกั้นบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง

จากความร่วมมือดังกล่าว ส่งผลให้ มีการสกัดบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัลได้แล้วกว่า 29,000 บัญชี รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ถูกอายัดราว 186 ล้านบาท (ข้อมูลถึง 30 มิถุนายน 2568)

นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการและโฆษก ก.ล.ต. เตือนประชาชนให้ระมัดระวังธุรกรรมทางการเงิน ไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ พร้อมย้ำว่า การรับจ้างเปิดบัญชีม้าสินทรัพย์ดิจิทัล หรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเพื่อกระทำความผิด มีโทษ จำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ก.ล.ต. ยืนยันว่าจะเดินหน้าทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนเพื่อป้องกันและปราบปรามการใช้สินทรัพย์ดิจิทัลในทางที่ผิด รวมถึงสร้างมาตรฐานใหม่ให้ผู้ประกอบธุรกิจคริปโตต้องมีความรับผิดชอบสูงสุด เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ลงทุนและประชาชน

‍

อ้างอิง : sec.or.th