SEC แตกคอ! กรรมาธิการหญิงจวกแรงคำแถลง Liquid Staking – “ยิ่งพูดยิ่งงง”

หน่วยงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ (US SEC) กลายเป็นสนามถกเถียงเรื่อง “Liquid Staking” ภายในองค์กร หลังจากกรรมาธิการ Caroline Crenshaw ออกมาวิพากษ์วิจารณ์คำแถลงล่าสุดของฝ่ายพนักงาน (Staff Statement) ว่า “สร้างความสับสนมากกว่าความเข้าใจ”

คำแถลงที่ “พูดไปก็เท่านั้น”?

คำแถลงดังกล่าวถูกปล่อยโดยแผนก Division of Corporation Finance ของ SEC ซึ่งระบุว่า “กิจกรรมบางรูปแบบของ Liquid Staking อาจไม่ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ หากมีการจัดโครงสร้างอย่างเหมาะสม” และได้รับคำชมจากประธาน Paul Atkins ว่าเป็น “ก้าวสำคัญในการให้ความชัดเจนด้านนโยบาย”

อย่างไรก็ตาม กรรมาธิการ Crenshaw ออกแถลงการณ์ตอบโต้ทันที โดยเริ่มต้นด้วยประโยคที่เด็ดขาดว่า “บางอย่างก็ไม่ควรพูดออกมา” และกล่าวว่าแถลงการณ์นี้ใช้ข้อสมมติฐานที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนจนเปรียบเสมือน “กำแพงข้อเท็จจริงที่โยกเยก และไม่ยึดโยงกับความเป็นจริงในอุตสาหกรรม”

เธอยังเตือนผู้ให้บริการ Liquid Staking ว่า “ควรเดินหน้าอย่างระวัง” พร้อมทิ้งท้ายว่า “Caveat liquid staker” หรือแปลแบบไทย ๆ ว่า “ลงทุน Liquid Staking ต้องดูให้ดี”

เสียงจากอีกฝั่ง: เปรียบเทียบกับใบฝากของ

Hester Peirce อีกหนึ่งกรรมาธิการ SEC เห็นต่าง และออกมาแสดงความเห็นว่าสิ่งที่เรียกว่า Liquid Staking ก็เหมือนการฝากของไว้กับตัวแทนที่ออกใบเสร็จแทน ซึ่งไม่น่าจะเข้าข่ายเป็นหลักทรัพย์ พร้อมเสริมว่า “วันนี้เราชี้แจงว่า การ Staking ร่วมกับโปรโตคอลไม่ได้ถือเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์”

Liquid Staking คืออะไร?

Liquid Staking คือการที่ผู้ถือครองคริปโตสามารถนำสินทรัพย์ไป Staking เพื่อรับผลตอบแทน และได้รับโทเคนแทน (เช่น stETH จาก Lido) ซึ่งสามารถนำไปใช้งานใน DeFi เช่น ซื้อขาย ยืม หรือวางค้ำประกันต่อได้

การมีโทเคนที่ใช้งานได้แม้ขณะ Staking ถือเป็นการปลดล็อกสภาพคล่อง และส่งผลให้ Liquid Staking เติบโตอย่างรวดเร็ว ปัจจุบันมีมูลค่ารวมกว่า 67,000 ล้านดอลลาร์ (ข้อมูลจาก DeFiLlama) โดย Ethereum คิดเป็นสัดส่วนกว่า 75% ของตลาดนี้

แล้วเรื่องนี้สำคัญยังไง?

ข้อถกเถียงใน SEC ครั้งนี้แสดงให้เห็นว่ากรอบกฎหมายของคริปโตยังไม่มีความแน่นอน โดยเฉพาะสินทรัพย์ที่ผสมความเป็น “การลงทุน + การใช้งาน” อย่าง Liquid Staking ที่อาจกระทบต่อทั้งผู้พัฒนาแพลตฟอร์ม DeFi และผู้ใช้งานทั่วไป

ความไม่ชัดเจนทางกฎหมายเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนต้องจับตามอง โดยเฉพาะในตลาดที่เคลื่อนไหวรวดเร็ว และมีมูลค่าสูงอย่างคริปโต

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ disruptionbanking.com