Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Brad Garlinghouse ซีอีโอของ Ripple ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการผ่านโพสต์บนแพลตฟอร์ม X เมื่อวันศุกร์ว่า Ripple ได้ตัดสินใจ “ปิดฉาก” คดีความระหว่างบริษัทกับสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) ที่ยืดเยื้อมานานหลายปี โดย Ripple จะไม่ยื่นอุทธรณ์เพิ่มเติมอีก และขอเดินหน้าสู่เป้าหมายใหญ่ที่บริษัทตั้งใจไว้มาโดยตลอด นั่นคือการสร้าง Internet of Value หรืออินเทอร์เน็ตของมูลค่าที่ทุกคนสามารถแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลได้อย่างราบรื่นทั่วโลก
ย้อนกลับไปในปี 2020 สำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้อง Ripple โดยกล่าวหาว่าบริษัทระดมทุนผิดกฎหมายเป็นมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ ผ่านการขายเหรียญ XRP ซึ่ง ก.ล.ต. มองว่าเป็น "หลักทรัพย์ที่ไม่ได้จดทะเบียน"
เมื่อปีที่ผ่านมา ผู้พิพากษา Analisa Torres จากศาลแขวงสหรัฐฯ เขตนิวยอร์กตอนใต้ ได้มีคำตัดสินว่า การขาย XRP แบบโปรแกรมอัตโนมัติ (Programmatic Sales) นั้น ไม่ถือว่าเป็นการขายหลักทรัพย์ เนื่องจากผู้ซื้อไม่สามารถทราบได้ว่าซื้อจากใคร แต่ในกรณีของการขาย XRP โดยตรงให้กับนักลงทุนสถาบัน กลับเข้าข่ายเป็นการขายหลักทรัพย์ผิดกฎหมาย ซึ่งทำให้ Ripple ต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงิน 125 ล้านดอลลาร์
แม้จะมีการพิจารณาร่วมกันระหว่าง Ripple และ SEC เพื่อลดค่าปรับลงและยกเลิกคำสั่งห้ามต่าง ๆ แต่ศาลก็ปฏิเสธคำร้องนั้น และคงคำตัดสินเดิมไว้ โดยล่าสุด Brad Garlinghouse ออกมาชี้แจงว่า Ripple จะ ไม่เดินหน้ายื่นอุทธรณ์ เพิ่มเติมอีกต่อไป และเลือกที่จะ จบเรื่องทั้งหมดไว้ตรงนี้
“เรากำลังปิดฉากบทนี้ และจะโฟกัสกับสิ่งที่สำคัญที่สุด นั่นคือการสร้าง Internet of Value” — Brad Garlinghouse, CEO Ripple
แม้ก่อนหน้านี้ Ripple เคยบอกว่าจะไม่ยื่นอุทธรณ์ตั้งแต่เดือนมีนาคมแล้ว แต่การยืนยันล่าสุดนี้คือการประกาศอย่างเป็นทางการว่า Ripple พร้อมแล้วที่จะเดินหน้าต่อไป
หลังจากพ้นจากแรงกดดันทางกฎหมาย บริษัทสามารถกลับมาโฟกัสกับพันธกิจหลัก นั่นคือการสร้าง เครือข่ายการชำระเงินระดับโลกที่มีประสิทธิภาพ รวดเร็ว และโปร่งใส โดยใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนและโทเคน XRP เป็นหัวใจหลักในการเชื่อมโลกการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับระบบสินทรัพย์ดิจิทัลยุคใหม่
อ้างอิง : theblock.co
ภาพ watcher.guru