OKX วางแผน IPO เข้าตลาดหุ้น หลังจัดตั้งสาขาในสหรัฐฯ และจ่ายค่าปรับกว่า 500 ล้าน

กระแสความสนใจของบริษัทในอุตสาหกรรมคริปโทเคอร์เรนซีในการใช้ประโยชน์จากสภาวะตลาดที่เอื้ออำนวยของสหรัฐฯ กำลังเด่นชัดขึ้น ภายหลังการเสนอขายหุ้น IPO ของ Circle ที่ประสบความสำเร็จในเดือนนี้

สำนักข่าว The Information รายงานว่า OKX ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลชั้นนำของโลก กำลังอยู่ในระหว่างการพิจารณาถึงความเป็นไปได้ในการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ในสหรัฐอเมริกา การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นไม่กี่เดือนหลังจากที่บริษัทได้จัดตั้งสำนักงานในสหรัฐฯ และได้บรรลุข้อตกลงชำระค่าปรับมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์กับกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ (DOJ) ในข้อหาการให้บริการโอนเงินโดยไม่ได้รับอนุญาต

นายไฮเดอร์ ราฟิก (Haider Rafique) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาดของ OKX ให้สัมภาษณ์ว่า "บริษัทจะพิจารณาการทำ IPO อย่างแน่นอนในอนาคต" และหากดำเนินการจริง "มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดขึ้นในสหรัฐอเมริกา"

ทั้งนี้ ตัวแทนจาก OKX ได้ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเพิ่มเติมต่อคำร้องขอจากสำนักข่าว Decrypt

แม้จะยังไม่มีการเปิดเผยกรอบเวลาหรือการยื่นเอกสารอย่างเป็นทางการ แต่การพิจารณาแผน IPO ของ OKX สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งในตลาดสหรัฐฯ ซึ่งมีศักยภาพสูง แผนการดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการขยายการดำเนินงานในสหรัฐฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยมีการจัดตั้งสำนักงานใหญ่ประจำภูมิภาค ณ เมืองซานโฮเซ รัฐแคลิฟอร์เนีย

นายโรชาน โรเบิร์ต (Roshan Robert) ซึ่งเข้ารับตำแหน่งซีอีโอประจำสหรัฐฯ ในขณะนั้น ระบุในแถลงการณ์ว่า การขยายธุรกิจครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล "ด้วยวิธีการที่ปลอดภัย โปร่งใส และสอดคล้องกับกฎระเบียบ"

ทิศทางของ OKX ในการมุ่งสู่ตลาดทุนสอดคล้องกับแนวโน้มการฟื้นตัวของบริษัทคริปโตที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากการเปิดตัวของ Circle ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา โดยสามารถระดมทุนได้ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ และส่งผลให้ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นเกือบ 4 เท่าในเวลาต่อมา

ความสำเร็จดังกล่าวได้สร้างบรรทัดฐานเชิงบวกให้แก่บริษัทคริปโตอื่นๆ ที่กำลังพิจารณาแผนการในลักษณะเดียวกัน ซึ่งรวมถึงบริษัทชั้นนำหลายแห่งที่อยู่ในขั้นตอนการเตรียมการแล้ว อาทิ Gemini ของฝาแฝดวินเคิลวอส (Winklevoss), Bullish ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนมหาเศรษฐี ปีเตอร์ ธีล (Peter Thiel) และ FalconX

ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ OKX ได้บรรลุข้อตกลงยอมความกับ DOJ ด้วยการชำระค่าปรับมูลค่ากว่า 500 ล้านดอลลาร์ และยอมรับผิดในข้อหาให้บริการแก่ลูกค้าในสหรัฐฯ โดยไม่มีใบอนุญาตประกอบธุรกิจด้านการส่งเงิน (Money Transmitter License) ซึ่งในขณะนั้น บริษัทได้แถลงว่าจะยังคง "ให้ความสำคัญกับนวัตกรรมควบคู่ไปกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์" ต่อไป

‍