Strategy หยุดซื้อ Bitcoin อีกครั้งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ท่ามกลางความผันผวนของราคา

Michael Saylor และบริษัท Strategy ซึ่งเป็นผู้ถือ Bitcoin รายใหญ่ที่สุดในตลาดหลัก ไม่ได้เข้าซื้อ BTC เพิ่มเติมในสัปดาห์ที่ผ่านมา แม้ว่าราคาของ Bitcoin จะพุ่งทะลุจุดสูงสุดใหม่ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมก็ตาม

จากข้อมูลการยื่นรายงานกับสำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันจันทร์ Strategy ยังคงถือ Bitcoin ที่ 607,770 BTC เท่าเดิม โดยไม่มีการเพิ่มจำนวนในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

ขณะที่ราคา Bitcoin เพิ่มขึ้นจากประมาณ $118,000 เป็นมากกว่า $119,000 ภายในสัปดาห์เดียว กลับไม่มีการเข้าซื้อจาก Strategy ซึ่งถือเป็นครั้งที่สองในเดือนกรกฎาคมที่ไม่มีการซื้อ BTC รายสัปดาห์ และยังเกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่มีรายงานว่า นักลงทุนยุคแรกขาย BTC กว่า 80,000 เหรียญออกมา

กิจกรรมซื้อ BTC ของ Strategy ลดลง 39% เมื่อเทียบรายเดือน

ในเดือนกรกฎาคม Strategy รายงานการซื้อ BTC สองครั้งเท่านั้น คือ

• วันที่ 14 ก.ค. ซื้อ 4,225 BTC
• วันที่ 21 ก.ค. ซื้ออีก 6,220 BTC

รวมเป็น 10,445 BTC ซึ่งลดลงจากเดือนมิถุนายนที่ซื้อไปถึง 17,075 BTC หรือคิดเป็นลดลง 39%

ก่อนหน้านี้ Strategy เคยซื้อ BTC จำนวนมากในเดือนพฤษภาคมและเมษายน โดยซื้อ 26,695 BTC และ 25,370 BTC ตามลำดับ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการชะลอแผนซื้อในเดือนกรกฎาคมอย่างชัดเจน

STRC: ระดมทุนเพื่อถือ Bitcoin ต่อ

การชะลอซื้อ Bitcoin ครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่ Strategy เพิ่มขนาดการเสนอขายหุ้นกู้แบบ perpetual รุ่นใหม่ที่เรียกว่า STRC จากเดิม $500 ล้าน เป็น $2.521 พันล้านดอลลาร์ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา

หุ้น STRC ถูกตั้งราคาขายไว้ที่ $90 ต่อหน่วย โดยมีกำหนดส่งมอบในวันอังคาร (ตามเวลาสหรัฐฯ) ทั้งนี้ STRC เป็นหนึ่งในเครื่องมือระดมทุนแบบเดียวกับที่ Strategy ใช้มาก่อนหน้านี้ อาทิ STRK ซึ่งบริษัทใช้เพื่อระดมทุนในการเข้าซื้อ Bitcoin อย่างต่อเนื่อง

Michael Saylor เองได้โพสต์บน X (เดิมคือ Twitter) เมื่อวันพุธ โดยเรียก STRC ว่าเป็นหนึ่งใน “4 เสาหลักของแผนกป้องกัน Bitcoin” ของบริษัท

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ coincentral.com