10 ปีถัดไปของ Ethereum: สร้างโลกการเงินดิจิทัลด้วย Stablecoin, AI, และองค์กรระดับโลก

ากอยากเข้าใจอนาคตของ Ethereum จุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดคือมองย้อนกลับไปที่ผู้สร้างของมัน — Vitalik Buterin ก่อนที่ Ethereum จะเปิดตัวในปี 2015 เขาเห็นว่า blockchain ไม่ใช่แค่เครื่องมือสำหรับ “เงินดิจิทัล” เท่านั้น แต่สามารถใช้สร้างระบบความน่าเชื่อถือ, ตัวตน, การทำงานร่วมกัน และเครื่องมือสาธารณะรูปแบบใหม่ ๆ

Vitalik เคยกล่าวไว้ในรายการ The Tim Ferriss Show เมื่อปี 2021 ว่า Ethereum คือ “สิ่งมีชีวิตที่เติบโตและเปลี่ยนแปลงได้” ซึ่งวันนี้ Ethereum ก็ยังคงรักษาแก่นนั้นไว้

ในวาระครบรอบ 10 ปี Cointelegraph ได้สอบถามความคิดเห็นจากผู้นำในแวดวง Ethereum ถึงอนาคตในอีกทศวรรษข้างหน้า

Consensys: Ethereum จะกลายเป็น “Trustware” ของเศรษฐกิจโลก

Mallesh Pai หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของ Consensys และหนึ่งในผู้เขียนรายงานล่าสุด กล่าวว่า:

“ในอีก 5–10 ปีข้างหน้า Ethereum จะพัฒนาไปไกลกว่าการเป็นแพลตฟอร์ม Smart Contract และกลายเป็น เลเยอร์พื้นฐานของเศรษฐกิจโลกยุคใหม่”

• จุดเริ่มต้นคือการนำสินทรัพย์มาอยู่บนบล็อกเชน โดยเริ่มจาก Stablecoin และไล่ไปยังสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงขึ้น
• เมื่อสินทรัพย์เริ่มอยู่ “onchain” ระบบการค้าและการเงินก็จะตามมา
• ทั้งนี้ Ethereum จะเติบโตได้ก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากนักพัฒนาเดิม รวมถึงผู้สร้างจากภาคธุรกิจและสถาบันในอนาคต

GameSquare: Ethereum คือสินทรัพย์ดิจิทัลที่น่าเชื่อถือที่สุดระยะยาว

Justin Kenna CEO ของ GameSquare บริษัทเทคโนโลยีและสื่อดิจิทัล กล่าวว่า พวกเขาลงทุนใน ETH เพราะเชื่อว่า:

“Ethereum เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลระยะยาวที่สอดคล้องกับทิศทางของอินเทอร์เน็ตมากที่สุด”

แม้เชนอื่นจะมีค่าธรรมเนียมถูกหรือทำงานเร็วกว่า แต่ Ethereum ได้เปรียบเพราะ:

• มี คอมมูนิตี้ที่เข้มแข็ง
• มี โครงสร้างที่ยืดหยุ่น (composability)

Kenna เชื่อว่า Ethereum จะกลายเป็น “โครงสร้างทางการเงินและวัฒนธรรมของอินเทอร์เน็ต” ที่เชื่อมต่อแบรนด์ระดับโลกกับผู้ใช้งานผ่านทุกกิจกรรม ตั้งแต่ระบบชำระเงิน, การจัดการสินทรัพย์, เกม, ความบันเทิง ไปจนถึงตัวตนดิจิทัล

RedStone: Ethereum จะกลายเป็นโครงสร้างของโลกการเงินจริง

Marcin Kaźmierczak ผู้ร่วมก่อตั้ง RedStone ซึ่งเป็นเครือข่าย Oracle สำหรับบล็อกเชน เชื่อว่าอนาคตของ Ethereum จะขยายไปไกลกว่าแค่ DeFi

“Ethereum จะกลายเป็นเลเยอร์หลักของการเงินสถาบัน และการโทเคนไนซ์สินทรัพย์จริง (Real-world Asset Tokenization)”

แนวโน้มที่จะเกิดขึ้น:

• การพัฒนา Layer 2 เพื่อเพิ่มความสามารถในการขยายตัว (scalability)
• การนำ Virtual Machine รูปแบบใหม่มาใช้เพื่อให้เข้าถึงนักพัฒนาระดับมหาชนได้มากขึ้น
• การใช้งาน Ethereum จะ "ซ่อนตัว" อยู่ในชีวิตประจำวัน ผู้ใช้จะไม่รู้ว่ากำลังใช้งานมัน เช่นเดียวกับ AI วันนี้

“ตัวชี้วัดความสำเร็จของ Ethereum จะไม่ใช่ TVL หรือค่าธรรมเนียม แต่คือความ ‘มองไม่เห็น’ แต่ขาดไม่ได้ในระบบการเงินโลก”

Optimism: Ethereum จะกลายเป็นเลเยอร์พื้นฐานขององค์กรธุรกิจทั่วโลก

Sam McIngvale หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์ของ OP Labs กล่าวว่า:

“ในอีก 10 ปี ทุกองค์กรขนาดใหญ่จะย้ายเข้าสู่ onchain และส่วนใหญ่จะพัฒนาโครงสร้างของตัวเองบน Ethereum”

เขามองว่าด้วยความชัดเจนด้านกฎระเบียบที่เริ่มเป็นรูปเป็นร่างมากขึ้น สถาบันการเงิน, ฟินเทค และบริษัทชำระเงินกำลังเริ่มเข้าสู่ Ethereum อย่างจริงจัง

Coinbase: ผู้สร้างคือหัวใจของ Ethereum

Nemil Dalal หัวหน้าฝ่ายแพลตฟอร์มนักพัฒนาของ Coinbase ชี้ว่า ความสำเร็จของ Ethereum ในระยะยาวขึ้นอยู่กับ:

• การเข้าถึงที่ง่ายขึ้น (usability)
• พลังของคอมมูนิตี้นักพัฒนา (builder community)

เขาคาดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้า Ethereum จะเป็นรากฐานของ:

• เอเจนต์ AI ที่ทำธุรกรรมแทนมนุษย์
• ชุมชนโซเชียลแบบ onchain
• โลกเกมยุคใหม่ที่เชื่อมต่อกับระบบการเงินดิจิทัล

“สิ่งที่ทำให้ผมมั่นใจคือ ‘เหล่านักสร้าง’ ที่ลงมือทำจริง ไม่ใช่แค่ฝัน”

Ethereum จาก “แพลตฟอร์มทดลอง” สู่ “โครงสร้างพื้นฐานของโลก”

แม้ว่าภาพอนาคตของ Ethereum อาจแตกต่างกันในรายละเอียด แต่วิสัยทัศน์ร่วมที่ชัดเจนคือ:

• Ethereum จะเปลี่ยนจากเครื่องมือสำหรับเขียน Smart Contract
• กลายเป็นเลเยอร์โครงสร้างพื้นฐานของสินทรัพย์, ระบบองค์กร, และชีวิตดิจิทัลในทุกมิติ

ถ้าทศวรรษแรกของ Ethereum คือการทดลองสิ่งที่ blockchain “ทำได้” ทศวรรษต่อไปอาจเป็นช่วงเวลาที่ Ethereum “กลายเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้”

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ 99bitcoins.com