Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
กองทุน ETF ที่ลงทุนใน Bitcoin แบบสปอตของสหรัฐฯ กำลังจะสร้างสถิติใหม่ โดยมียอดซื้อขายสะสมแตะเกือบ 1 ล้านล้านดอลลาร์ ภายในเวลาไม่ถึง 18 เดือนหลังเปิดตัวในเดือนมกราคม 2024
หลังจากเปิดตัว กองทุนเหล่านี้เติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีมูลค่าซื้อขายสะสมทะลุ
ช่วงนั้นราคา Bitcoin ก็พุ่งขึ้นจนเกือบแตะจุดสูงสุดเดิมที่ $74,000
แต่หลังจากนั้น ตลาดคริปโตเข้าสู่ช่วงพักฐาน โดยราคา Bitcoin เคลื่อนไหวระหว่าง $50,000–$70,000 เป็นเวลากว่า 7 เดือน จนกระทั่งชัยชนะของ โดนัลด์ ทรัมป์ ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ช่วยดันราคา Bitcoin ทะลุระดับสูงสุดเดิม และทำให้ยอดซื้อขายสะสมของ ETF พุ่งทะลุ $500 พันล้าน
ภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 กองทุนก็แตะ $750 พันล้าน และล่าสุด ณ วันที่ 9 มิถุนายน 2025 ยอดรวมอยู่ที่ $995.2 พันล้าน และคาดว่าจะทะลุ $1 ล้านล้าน ภายในไม่กี่วัน เนื่องจากปริมาณการซื้อขายรายวันยังอยู่ที่ $2.3–$4.4 พันล้าน
ความสำเร็จของกองทุน Bitcoin ETF ครั้งนี้ ทำให้สามารถแข่งขันกับกองทุนระดับโลกอย่าง
ในขณะเดียวกัน กองทุน Ethereum ETF ของสหรัฐฯ ซึ่งเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม 2024 มีมูลค่าซื้อขายสะสมเพียง $83.4 พันล้าน เท่านั้น
กองทุน IBIT ของ BlackRock กลายเป็นผู้นำตลาด ETF บิทคอยน์ทั้งในแง่ของ
โดยปัจจุบัน IBIT มีมูลค่า AUM ถึง $70 พันล้าน และครองส่วนแบ่งตลาดถึง 79% (จากเดิม 22%) แซงหน้า GBTC ของ Grayscale ซึ่งเคยได้เปรียบช่วงแรก
IBIT ยังเป็น ETF ที่เติบโตเร็วที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยใช้เวลาเพียง 341 วัน ในการแตะ $70 พันล้าน เร็วกว่าผู้ถือสถิติเก่าอย่าง SPDR Gold Shares (GLD) ที่ใช้เวลากว่า 1,691 วัน
Eric Balchunas นักวิเคราะห์อาวุโสจาก Bloomberg แสดงความคิดเห็นว่า
ตอน BlackRock ยื่นขอก่อตั้ง IBIT ราคา Bitcoin อยู่แค่ $30,000 และภาพลักษณ์ของคริปโตยังคงได้รับผลกระทบจากคดี FTX แต่ตอนนี้ บิทคอยน์กลับมาพุ่งทะลุ $110,000 แล้ว ซึ่งถือว่า “ยกระดับ” ได้ชัดเจน
ในฝั่งของ Ethereum
ในขณะที่ฝั่ง Bitcoin ETF มี
อ้างอิง : theblock.co