Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรผ่าน “ร่างกฎหมาย big, beautiful bill” ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไปได้สำเร็จ ล่าสุดผู้นำสภาได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า สัปดาห์ที่เริ่มต้นวันที่ 14 กรกฎาคมนี้จะเป็น “Crypto Week” ซึ่งจะเป็นช่วงเวลาสำคัญสำหรับการพิจารณากฎหมายที่เกี่ยวข้องกับคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลหลายฉบับ
Mike Johnson ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากรัฐลุยเซียนา พร้อมด้วย French Hill ประธานคณะกรรมาธิการบริการการเงิน และ GT Thompson ประธานคณะกรรมาธิการเกษตร ประกาศว่าสภาจะพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญ 3 ฉบับ ได้แก่
ประธานสภา Johnson กล่าวว่า:
“พรรครีพับลิกันในสภากำลังดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อขับเคลื่อนแผนยุทธศาสตร์คริปโตของประธานาธิบดีทรัมป์อย่างเต็มรูปแบบ”
ในช่วงก่อนหน้านี้ มีข่าวว่าสภาผู้แทนอาจผลักดันร่างกฎหมาย Stablecoin เวอร์ชันของตนเองชื่อว่า STABLE Act แต่จากท่าทีล่าสุดดูเหมือนจะเปลี่ยนมาให้ความสำคัญกับ ร่างกฎหมาย GENIUS ที่วุฒิสภานำเสนอ ซึ่งผ่านความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว
ร่างกฎหมาย GENIUS กำหนดให้ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ต้องมีสินทรัพย์รองรับ 100% เป็นดอลลาร์สหรัฐหรือสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูง รวมถึงต้องมีการตรวจสอบบัญชีรายปี หากมีมูลค่าตลาดเกิน 50,000 ล้านดอลลาร์ และมีข้อกำหนดชัดเจนต่อผู้ออกเหรียญในต่างประเทศ
ประธานาธิบดีทรัมป์ได้แสดงเจตนารมณ์อย่างชัดเจนว่า ต้องการให้ร่างกฎหมาย Stablecoin อยู่บนโต๊ะทำงานเขาภายในเดือนสิงหาคมนี้
อีกหนึ่งกฎหมายสำคัญคือ Digital Asset Market Clarity Act (เรียกสั้น ๆ ว่า Clarity) ซึ่งถูกผลักดันโดยคณะกรรมาธิการบริการการเงินและคณะกรรมาธิการเกษตรแห่งสภาผู้แทนราษฎร
ร่างกฎหมายนี้จะช่วยสร้าง กรอบกฎหมายที่ชัดเจนสำหรับสินทรัพย์ดิจิทัล โดยระบุบทบาทของ สำนักงาน ก.ล.ต. สหรัฐ (SEC) และ คณะกรรมการกำกับซื้อขายสัญญาล่วงหน้า (CFTC) อย่างชัดเจน รวมถึงกำหนดให้บริษัทคริปโตต้องเปิดเผยข้อมูลทางการเงินต่อผู้ลงทุน และแยกเงินของบริษัทกับเงินของลูกค้าอย่างเป็นระบบ
กฎหมายฉบับสุดท้ายที่จะถูกพิจารณาใน Crypto Week คือร่างของ Tom Emmer รองผู้นำเสียงข้างมาก ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อ ห้ามธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) จากการออกสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) โดยตรงถึงประชาชน
Emmer ให้เหตุผลว่า การออก CBDC แบบนี้อาจละเมิดสิทธิความเป็นส่วนตัวของพลเมืองอเมริกัน และขัดต่อหลักเสรีภาพทางการเงิน
แม้ร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับจะได้รับการสนับสนุนอย่างมากจากพรรครีพับลิกัน แต่ฝ่ายเดโมแครตกลับมีท่าทีไม่เห็นด้วย โดยเฉพาะในประเด็นที่ว่าประธานาธิบดีทรัมป์มีส่วนเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ในวงการคริปโต ทั้งจากโปรเจกต์ World Liberty Financial, TRUMP และ MELANIA memecoins ซึ่งคาดว่าเขาได้กำไรกว่า 620 ล้านดอลลาร์จากโครงการเหล่านี้
Tom Emmer กล่าวปิดท้ายว่า:
“เมื่อร่างกฎหมายเหล่านี้ผ่านไปถึงโต๊ะประธานาธิบดีทรัมป์ เราจะสามารถปกป้องเสรีภาพทางการเงินของชาวอเมริกัน และทำให้สหรัฐฯ กลายเป็นศูนย์กลางของคริปโตระดับโลกอย่างแท้จริง”
อ้างอิง : theblock.co
ภาพ dig.watch