Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
วุฒิสภาสหรัฐฯ มีมติผ่านร่างกฎหมายงบประมาณ “One Big Beautiful Bill Act” อย่างฉิวเฉียดเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ด้วยคะแนนเสียง 50 ต่อ 50 โดยที่รองประธานาธิบดี JD Vance เป็นผู้ชี้ขาดเสียงสุดท้าย ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากทั้งพรรคเดโมแครตและรีพับลิกัน เกี่ยวกับการ ตัดงบสาธารณสุข การขาดมาตรการ ควบคุม AI และ การลดภาษีที่เอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มทุนใหญ่
วุฒิสมาชิกจากรัฐไวโอมิง Cynthia Lummis พยายามเสนอการแก้ไขร่างกฎหมาย เพื่อให้มีมาตรการจัดการกับ “ภาษีที่ไม่เป็นธรรมต่อนักขุดและผู้ถือคริปโต” อย่างไรก็ตาม ข้อเสนอนี้ ไม่ได้ถูกรวมอยู่ในบทแก้ไขที่เข้าสู่การลงมติ และกฎหมายฉบับนี้จึงผ่านไป โดยไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับคริปโตเลย
“ฉันอยากเห็นมาตรการนั้นอยู่ในกฎหมายขั้นสุดท้าย”
ตัวแทนจากรัฐอลาสกา Nicholas Begich ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph หลังลงคะแนน พร้อมระบุว่า “ยังมีโอกาสอื่นที่จะผลักดันให้ประเด็นนี้รวมอยู่ในกฎหมายที่ ‘จำเป็นต้องผ่าน’”
Elizabeth Warren วุฒิสมาชิกเดโมแครตจากรัฐแมสซาชูเซตส์ ออกมาโจมตีร่างงบฯ นี้อย่างหนัก โดยระบุผ่าน Instagram ว่า
“ทรัมป์และพรรครีพับลิกันเตรียมเขียนเช็คมูลค่า $15,000 ล้านให้ Meta โดยแลกกับการตัดสิทธิประกันสุขภาพของชาวอเมริกันนับล้านคน”
ด้านวุฒิสมาชิก Jeff Merkley จากรัฐโอเรกอนก็ได้เสนอแก้ไขเพิ่มเติม เพื่อห้ามประธานาธิบดี รองประธานฯ สมาชิกรัฐสภา และเจ้าหน้าที่รัฐบาลถือหรือโปรโมทคริปโต ซึ่ง ถูกโหวตตกไปเช่นกัน
ถึงแม้สภาคองเกรสจะกำลังพิจารณาร่างกฎหมายสำคัญหลายฉบับ ได้แก่
แต่ทั้งหมดอาจ ต้องชะลอไว้ก่อน เนื่องจากกระบวนการงบประมาณมีลำดับความสำคัญสูงกว่า
ร่าง GENIUS Act ผ่านวุฒิสภาแล้วเมื่อวันที่ 17 มิ.ย. และอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนฯ โดย Begich คาดว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เพราะทรัมป์เรียกร้องให้ส่งร่างนี้ถึงโต๊ะเขา โดยไม่เติมอะไรเพิ่ม
Begich ระบุเพิ่มเติมว่า ร่างกฎหมาย BITCOIN Act อาจเข้าสู่การพิจารณาได้ช่วง ปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า เนื่องจากมีตารางพิจารณากฎหมายจำนวนมากที่ “จำเป็นต้องมาก่อน”
ในส่วนของกฎหมาย CLARITY Act นั้น สภาผู้แทนฯ ได้โหวตให้ส่งออกจากคณะกรรมาธิการแล้วในเดือนมิถุนายน ขณะที่พรรครีพับลิกันในวุฒิสภายังอยู่ระหว่างร่างเวอร์ชันของตนเอง โดยคาดว่าจะ พยายามผลักดันให้ผ่านก่อนเดือนตุลาคม
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ economictimes.indiatimes.com