Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

July 21, 2025
ข่าว
1
min read

JPMorgan ชี้แนวโน้มทั่วโลกเทใจให้ “Tokenized Deposits” แทน Stablecoin หลังบทเรียนจาก Terra และ FTX

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan เปิดเผยว่า หน่วยงานกำกับดูแลนอกสหรัฐฯ อย่างธนาคารกลางอังกฤษ (Bank of England) เริ่มแสดงท่าทีชัดเจนว่าให้การสนับสนุน “เงินฝากแบบโทเคน” (Tokenized Bank Deposits) มากกว่า Stablecoin ในการแข่งขันเพื่อความสำคัญในโลกการเงินดิจิทัล

รายงานนี้อ้างอิงถึงคำกล่าวของผู้ว่าการธนาคารกลางอังกฤษ แอนดรูว์ เบลีย์ (Andrew Bailey) ที่ระบุว่าเขาต้องการเห็นธนาคารออกเงินฝากในรูปแบบโทเคน แทนการออก Stablecoin ของตนเอง

Tokenized Deposits คืออะไร?

เงินฝากแบบโทเคน คือ เงินฝากจากธนาคารพาณิชย์ที่ถูกบันทึกลงบนระบบบล็อกเชน โดยยังคงได้รับการคุ้มครองเหมือนเงินฝากปกติ เช่น การประกันเงินฝาก ข้อกำหนดเงินกองทุน การสนับสนุนจากธนาคารกลางในภาวะวิกฤติ และการปฏิบัติตามกฎ AML/KYC พร้อมทั้งได้ประโยชน์จากการใช้งานบล็อกเชน เช่น ความสามารถในการเขียนโปรแกรมและการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ

นักวิเคราะห์ของ JPMorgan ระบุว่าเงินฝากแบบโทเคนมี 2 ประเภท:

  • แบบ Bearer (โอนเปลี่ยนมือได้): คล้ายกับ Stablecoin ใช้โอนได้อิสระในตลาด
  • แบบ Non-Bearer (ไม่สามารถโอนได้เอง): การโอนระหว่างธนาคารจะชำระที่มูลค่าหน้าตั๋วด้วยเงินของธนาคารกลาง ซึ่งช่วยรักษา “ความเป็นหนึ่งเดียวของเงิน” (Singleness of Money) ที่สำคัญต่อระบบการเงิน

ทำไมผู้กำกับดูแลจึงไม่ปลื้ม Stablecoin?

JPMorgan ชี้ว่า Stablecoin และ Bearer Token มีแนวโน้มจะ “หลุดจากมูลค่าคงที่” ได้จากปัจจัยเสี่ยงต่างๆ เช่น ความเสี่ยงด้านเครดิตหรือสภาพคล่อง ซึ่งเคยเกิดขึ้นจริงในเหตุการณ์วิกฤติของ Terra, FTX และธนาคาร Silicon Valley (SVB)

ในทางตรงข้าม เงินฝากแบบ Non-Bearer จะทำให้การชำระเงินระหว่างธนาคารยังคงมูลค่าที่แน่นอนและเสถียร โดยไม่เสี่ยงต่อความผันผวน

แม้จะมีแนวโน้มสนับสนุน Tokenized Deposits แต่ JPMorgan ก็ยอมรับว่า Stablecoin ยังคงได้รับความนิยมในตลาดคริปโต เพราะมีสภาพคล่องสูงและโอนง่ายกว่ามาก

Stablecoin ยังน่าสนใจอยู่หรือไม่?

แม้หลายฝ่ายจะเทใจให้กับเงินฝากแบบโทเคน แต่นักวิเคราะห์ก็ย้ำว่า Stablecoin ยังมีข้อดีคือ:

  • ไม่ดึงเงินออกจากระบบการเงินแบบดั้งเดิม เพราะเงินสำรองส่วนใหญ่มักถูกนำไปลงทุนในพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เช่นเดียวกับกองทุนตลาดเงิน
  • ยังคงตอบโจทย์การใช้งานในระบบคริปโต โดยเฉพาะในด้านสภาพคล่องและการโอนย้ายข้ามแพลตฟอร์ม

ความท้าทายของธนาคารในการออก Stablecoin

JPMorgan ตั้งคำถามว่า “ธนาคารจะได้ประโยชน์อะไรจากการออก Stablecoin?” โดยยกตัวอย่างรายงานจากธนาคารกลางอังกฤษปี 2023 ที่เสนอให้ธนาคารต้องกันเงินสำรองไว้ที่ธนาคารกลางโดยไม่ได้รับดอกเบี้ย หากต้องการออก Stablecoin

นักวิเคราะห์จึงตั้งข้อสังเกตว่า หากต้องกันเงินไว้แบบไม่มีดอกเบี้ย ธนาคารก็อาจไม่คุ้มค่าที่จะออก Stablecoin เพราะไม่สามารถนำเงินไปสร้างรายได้เหมือนกับการรับฝากเงินทั่วไป

สหรัฐฯ เดินอีกทาง หนุน Stablecoin เต็มตัว

ในขณะที่ยุโรปและอังกฤษเอนเอียงไปทางเงินฝากแบบโทเคน ทางสหรัฐฯ กลับเดินเกมผลักดัน Stablecoin อย่างจริงจัง โดยล่าสุด ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามใน “GENIUS Act” กฎหมาย Stablecoin ฉบับแรกของประเทศ ที่อนุญาตให้ธนาคารออก Stablecoin ได้ และกำหนดกรอบการกำกับดูแลแบบชัดเจน

ที่น่าสนใจคือ JPMorgan เองก็กำลังทดสอบเหรียญเงินฝากแบบโทเคนภายใต้ชื่อ “JPMD” บนเครือข่าย Base Layer 2 และได้ยื่นขอเครื่องหมายการค้าเป็นที่เรียบร้อยในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

อ้างอิง : theblock.co
ภาพ x.com

ข่าวที่คุณอาจสนใจ