Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

July 30, 2025
ข่าว
1
min read

Strategy ทุ่มซื้อเพิ่ม 21,021 BTC ราคาเฉลี่ย $117,256 ดันคลังสะสมแตะ 628,791 BTC

บริษัท Strategy ภายใต้การนำของ Michael Saylor ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้บุกเบิกแนวคิด Bitcoin Treasury ได้ประกาศเมื่อวันอังคารว่า บริษัทได้ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 21,021 เหรียญ โดยมีราคาซื้อเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ $117,256 ต่อเหรียญ ส่งผลให้ยอดสะสมรวมของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 628,791 BTC คิดเป็นมูลค่าราว 74 พันล้านดอลลาร์ ณ วันที่ 29 กรกฎาคม

การซื้อครั้งนี้ใช้เงินทุนจากการเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิแบบไม่มีวันครบกำหนด (Perpetual Preferred Stock) รุ่นใหม่ที่มีชื่อว่า “Stretch” (STRC) โดยบริษัทได้ขายหุ้นมากกว่า 28 ล้านหน่วย ในราคาหน่วยละ $90 ทำให้ระดมทุนได้รวมประมาณ $2.521 พันล้านดอลลาร์

Strategy ระบุว่าการขายหุ้น STRC ครั้งนี้ถือเป็น “ก้าวสำคัญ” ทั้งสำหรับบริษัทและตลาดโดยรวม โดยนับเป็น IPO ขนาดใหญ่ที่สุดในสหรัฐฯ ประจำปี 2025 (อ้างอิงจากจำนวนเงินที่ระดมได้) และยังเป็นการเสนอขายหุ้นบุริมสิทธิในตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ ที่มีมูลค่าสูงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2009

บริษัท Strategy (ภายใต้ชื่อย่อหุ้น MSTR) ถือเป็นบริษัทแรกที่เริ่มออกตราสารทุนและตราสารหนี้เพื่อระดมทุนซื้อ Bitcoin ซึ่งกลายเป็นแนวทางใหม่ขององค์กรที่เรียกกันว่า Digital Asset Treasury (DAT) โดย Strategy เริ่มซื้อ Bitcoin ครั้งแรกในเดือนสิงหาคมปี 2020 ด้วยเงินสดในงบการเงินจำนวน 250 ล้านดอลลาร์

ปัจจุบัน Strategy มีแผนระยะยาวชื่อว่า “42/42” ซึ่งตั้งเป้าระดมทุนรวม $84 พันล้านผ่านการขายหุ้นและตราสารแปลงสภาพเพื่อนำไปซื้อ Bitcoin จนถึงปี 2027 สำหรับการเสนอขายหุ้น STRC ล่าสุดนี้เป็นการระดมทุนผ่านระบบ shelf registration กับสำนักงาน SEC สหรัฐฯ ซึ่งเป็นช่องทางที่ DAT หลายรายนิยมใช้

หุ้น Stretch ที่เพิ่งเสนอขายนั้นเริ่มต้นด้วยวงเงิน 500 ล้านดอลลาร์ ก่อนจะขยายเป็นกว่า 2.5 พันล้านดอลลาร์ โดย Strategy ยังมีหุ้นบุริมสิทธิรุ่นก่อนหน้าหลายชุด เช่น

  • Strike (STRK): แปลงเป็นหุ้นสามัญได้ พร้อมดอกเบี้ยคงที่ 8%
  • Strife (STRF): ไม่สามารถแปลงได้ แต่มีดอกเบี้ยสะสมคงที่ 10%
  • Stride (STRD): ไม่สามารถแปลงได้ พร้อมดอกเบี้ยประจำปี 10% แบบไม่สะสม

รายงานจาก TD Cowen ระบุว่า Strategy อาจสามารถเพิ่ม Bitcoin อีกกว่า 17,000 เหรียญเข้าคลังของตนในระยะเวลา 10 ปี โดยไม่ส่งผลต่อการลดสัดส่วนหุ้นสามัญเลยแม้แต่น้อย แม้จะต้องออกหุ้นเพื่อจ่ายเงินปันผลจากหุ้นบุริมสิทธิเหล่านี้ก็ตาม

การเดินหน้าของ Strategy ตอกย้ำถึงบทบาทของบริษัทในฐานะ "คลัง Bitcoin แห่งองค์กร" ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และยังคงเป็นผู้นำเทรนด์การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างชัดเจน

อ้างอิง : theblock.co

ข่าวที่คุณอาจสนใจ