Robert Kiyosaki เตือน! ถือครอง ETF อาจเสี่ยงแบบวิกฤติธนาคาร หากสถาบันไม่มีสินทรัพย์จริง

Robert Kiyosaki นักลงทุนและนักเขียนชื่อดัง ผู้แต่งหนังสือขายดี Rich Dad Poor Dad ออกโรงเตือนนักลงทุนเกี่ยวกับความเสี่ยงจากการถือครอง Bitcoin และโลหะมีค่าแบบ “กระดาษ” ผ่านช่องทางอย่าง ETF (Exchange-Traded Fund) โดยเปรียบเทียบว่า “ETF ก็เหมือนมีแค่รูปปืนเอาไว้ป้องกันตัว” ซึ่งไม่สามารถป้องกันอันตรายได้จริง

“บางครั้งการมีทองคำ เงิน หรือ Bitcoin จริง ๆ อยู่ในมือ ย่อมดีกว่าการมีแค่กระดาษที่อ้างว่าเป็นเจ้าของ” — Robert Kiyosaki

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม Kiyosaki ก็เคยออกมาเรียกร้องให้นักลงทุนเลิกถือ “เงินปลอม” และหันไปถือครอง สินทรัพย์แท้จริง (bearer assets) อย่าง BTC ทองคำ และเงิน เพื่อป้องกันตัวจากเงินเฟ้อและการลดค่าของดอลลาร์สหรัฐ

ETF ทำให้ลงทุนง่ายขึ้น แต่ไม่ได้หมายความว่าคุณถือครองของจริง

แม้ว่า ETF จะช่วยให้การเข้าถึงสินทรัพย์อย่าง Bitcoin เป็นเรื่องง่ายขึ้น แต่ Kiyosaki เน้นว่า ผู้ลงทุนไม่ได้ถือของจริงในมือ ซึ่งเสี่ยงหากสถาบันผู้ออก ETF ไม่มีสินทรัพย์เพียงพอรองรับ โดยเฉพาะเมื่อเกิด “Bank Run” หรือวิกฤติความเชื่อมั่น ที่ผู้คนแห่ถอนเงินพร้อมกัน

นักวิเคราะห์โต้ ETF มีระบบรักษาความปลอดภัยสูงมาก

ด้าน Eric Balchunas นักวิเคราะห์ ETF อาวุโสจาก Bloomberg ให้ความเห็นกับ Cointelegraph ว่า ETF มีระบบแยกทรัพย์สินออกจากผู้ดูแล และมีกฎหมายกำหนดให้ต้องมีสินทรัพย์รองรับจริงทุกหน่วย

“ETF ผูกกับสินทรัพย์จริงแบบ 1:1 ไม่ใช่กระดาษลอยลม ไม่มีการถือกระดาษแทนของจริง” — Balchunas กล่าว

เขายังเสริมว่า ETF เป็นอุตสาหกรรมที่มีอายุยาวกว่า 30 ปี และได้รับความเชื่อถือสูง พร้อมระบุว่า นักลงทุนที่ร่ำรวยบางรายอาจปลอดภัยกว่า หากถือครองผ่าน ETF มากกว่าถือเอง (self-custody) เพราะลดความเสี่ยงจากการถูกจี้ หรือเรียกค่าไถ่จากอาชญากร

สรุป: ถือ BTC จริงหรือ ETF ดีกว่ากัน?

ในขณะที่ Kiyosaki เชื่อว่าการถือครองสินทรัพย์แบบจับต้องได้ยังคง “เหนือกว่า” ในแง่ความมั่นคงและปลอดภัย แต่ผู้เชี่ยวชาญจากฝั่งการเงินแบบดั้งเดิมก็ให้ความมั่นใจกับระบบของ ETF ซึ่งมีโครงสร้างและกฎหมายรองรับอย่างแข็งแรง

‍

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ money.kompas.com