Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

April 29, 2025
ข่าว
1
min read

MetaMask เตรียมเปิดตัวบัตรคริปโตทั่วโลก ไตรมาส 2 ปี 2025 ชูจุดขาย 'ถือเหรียญเอง ใช้ได้จริง ปลอดภัยกว่าเว็บกลาง

ผู้ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัลชื่อดังอย่าง MetaMask เตรียมเปิดตัว บัตรจ่ายเงินคริปโตทั่วโลกในไตรมาสที่สองของปี 2025 เพื่อให้ผู้ใช้งานสามารถใช้เงินดิจิทัลที่เก็บไว้ด้วยตัวเอง (self-custody) สำหรับการใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้

ความร่วมมือใหญ่: MetaMask × Mastercard × CompoSecure × Baanx

  • บัตรใบใหม่นี้ได้รับการสนับสนุนโดย Mastercard
  • พัฒนาร่วมกับบริษัท CompoSecure และ Baanx
  • ใช้ Smart Contract เพื่อประมวลผลการใช้จ่ายจริง (IRL: In Real Life)
  • ความเร็วการประมวลผลใช้เวลาไม่เกิน 5 วินาที
  • ทำงานบนเครือข่าย Linea ซึ่งเป็นโซลูชันเลเยอร์ 2 บน Ethereum
  • มีกำหนดเปิดตัวทั่วโลกในไตรมาสที่สองของปี 2025

จุดขายหลัก: ใช้คริปโตได้จริง ปลอดภัยกว่าฝากเหรียญไว้ในเว็บเทรด

MetaMask โปรโมตบัตรนี้ว่า:

  • เป็นทางเลือกที่ปลอดภัยกว่าเว็บเทรดคริปโตแบบรวมศูนย์ (Centralized Exchanges)
  • ไม่ต้องเสี่ยงให้บุคคลที่สามถือเหรียญแทนผู้ใช้

แนวทางนี้ตอบโจทย์ตลาดที่เริ่มกังวลหลังเกิดเหตุการณ์ เว็บเทรด Bybit (ใหญ่อันดับสองของโลก)ถูกแฮก สูญเงินไปกว่า 1.4 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา

MetaMask กระโดดเข้าสู่ตลาดการชำระเงินด้วยคริปโต

ตลาดบัตรจ่ายเงินคริปโตมีการแข่งขันสูง: โดยเจ้าใหญ่อย่าง Binance, Bybit, Coinbase และ Crypto.com ต่างมีบัตรเดบิตคริปโตเป็นของตัวเอง และบางเจ้ามีฟีเจอร์ "Crypto-back" หรือคืนเงินในรูปเหรียญดิจิทัลให้ลูกค้าทุกครั้งที่ใช้จ่าย

ซึ่ง MetaMask กำลังเข้ามาแข่งในตลาดนี้ โดยใช้จุดแข็งคือ "ถือเหรียญเอง" และ "ไม่ต้องผ่านตัวกลาง"

กระแสการใช้ Stablecoin และ Bitcoin สำหรับการจ่ายเงินกำลังเติบโต

การใช้คริปโตในชีวิตจริง (Real-world Utility) กลายเป็นหนึ่งในเทรนด์เติบโตเร็วที่สุดในปี 2025 โดยแบรนด์หรูอย่าง Dorsia เริ่มรับชำระเงินด้วยคริปโต , แอปแชท Signal มีรายงานว่ากำลังสำรวจการรับส่งเงิน Bitcoin ระหว่างผู้ใช้ ขณะที่รัฐนิวยอร์กมีการเสนอร่างกฎหมายใหม่ เพื่อให้สามารถใช้ Bitcoin และคริปโตในการชำระเงินกับภาครัฐได้

MetaMask กำลังพยายามปฏิวัติตัวเอง ด้วยการเปิดตัวบัตรจ่ายเงินคริปโตที่เชื่อมต่อกับโลกจริงถือเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการผลักดันคริปโตจาก "การเก็บสะสม" สู่ "การใช้งานในชีวิตประจำวัน" อย่างแท้จริง

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ x.com/la_la_voom

ข่าวที่คุณอาจสนใจ