"Own What Matters" เมื่อ Viction เปิดทางให้ทุกคนเป็นเจ้าของในสิ่งที่มีความหมาย

ในโลกยุคดิจิทัลที่ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็ว การ “เข้าถึง” อาจไม่เพียงพออีกต่อไป แต่การ “เป็นเจ้าของ” คือหัวใจของอำนาจที่แท้จริง

วันนี้ เราไม่ได้พูดถึงแค่การเป็นเจ้าของทรัพย์สินหรือเหรียญคริปโต แต่พูดถึงการเป็นเจ้าของตัวตน คุณค่า และความหมายในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นความคิดสร้างสรรค์ ความภูมิใจในถิ่นฐาน หรือความภักดีต่อชุมชน

นี่คือแนวคิดเบื้องหลัง Viction บล็อกเชน Layer-1 ที่ออกแบบมาเพื่อให้ทุกคนมีสิทธิ์เป็นเจ้าของในสิ่งที่สำคัญต่อพวกเขา โดยไม่มีข้อจำกัดทางเทคนิคหรือค่าใช้จ่าย

จาก “แค่ใช้งาน” สู่ “การมีสิทธิ์ในสิ่งที่เราเชื่อ”

ก่อนหน้านี้ Web3 อาจดูเป็นเรื่องยาก เข้าถึงยาก หรือสงวนไว้ให้เฉพาะกลุ่มผู้มีความรู้ทางเทคนิคเท่านั้น แต่ Viction กลับเลือกทางตรงข้าม ทำให้ Web3 เป็นเรื่องง่าย ปลอดภัย และเป็นของทุกคน ด้วยเทคโนโลยีที่ผู้ใช้ทั่วไปเข้าใจได้ พร้อมระบบที่ยกเลิกค่า gas ให้ผู้ใช้งานโต้ตอบกับบล็อกเชนได้ฟรี

‍

เพราะความเป็นเจ้าของ ไม่ควรถูกจำกัดด้วยต้นทุน

แนวคิด “Own What Matters” จึงไม่ใช่แค่สโลแกน แต่คือการเชิญชวนให้ทุกคนหันกลับมาถามตัวเองว่า “อะไรคือสิ่งที่เราควรเป็นเจ้าของจริง ๆ?”

‍

Tokenization ไม่ใช่แค่เรื่องเทคโนโลยี แต่มันคือการให้ความหมาย

ในระบบของ Viction ทุกสิ่งสามารถถูกแปลงเป็น ownership ได้ ไม่ใช่แค่เงินหรือทรัพย์สิน แต่รวมถึง…

• ตัวตน (Identity) ผ่าน ONEID ที่ให้เราควบคุมตัวตนดิจิทัลแบบข้ามบล็อกเชน
• ความคิดสร้างสรรค์ ผ่าน NFT บน Dagora ที่ไม่ใช่แค่ของสะสม แต่เป็นสื่อของวัฒนธรรม
• รายได้ ผ่าน DeFi อย่าง deFusion ที่ให้ทุกคนสร้าง passive income ได้โดยไม่ต้องมีทุนสูง
• ความเป็นชุมชน ผ่าน RabbitSwap และโทเค็นอย่าง $DADA, $WHEEE ที่สร้างสังคมการเงินใหม่
• ความภูมิใจในท้องถิ่น ผ่านโปรเจกต์ใน SEA, แอฟริกา และอีกหลายประเทศที่ Viction ลงพื้นที่จริง

การ “Own” บางสิ่ง จึงหมายถึงการให้คุณค่า ไม่ว่าจะในเชิงวัฒนธรรม สังคม หรือจิตวิญญาณ

‍

‍

Viction ไม่ใช่แค่บล็อกเชน แต่คือเครื่องมือแห่งโอกาส

ในช่วงครึ่งปีแรกของ 2025

• Viction มีผู้ใช้งานรายวันเพิ่มขึ้นถึง 4 เท่าจาก Q1 ถึง Q2
• มีผู้ใช้งานเฉลี่ยรายเดือนถึง 142,500 คน
• มูลค่ารวมที่ถูกล็อก (TVL) เติบโตจาก $2.9M เป็นเกือบ $12M
• RabbitSwap กลายเป็น DEX หลักของระบบนิเวศ โดยมี TVL สูงสุดที่ $2.2M

ตัวเลขเหล่านี้ไม่ใช่แค่ “สถิติ” แต่คือหลักฐานของพลังผู้ใช้งานจริง ที่เห็นคุณค่าและเลือก “เป็นเจ้าของ” แทนที่จะเป็นเพียงผู้ใช้งาน

FrontierDAO สะพานเชื่อมระหว่างผู้คนและโอกาส

อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่สะท้อนแนวคิด “Own It Together” อย่างชัดเจนคือ FrontierDAO เป็น DAO ที่ไม่เพียงส่งเสริมผู้สร้างคอนเทนต์ แต่ยังเปิดโอกาสให้พวกเขามีบทบาทในระบบเศรษฐกิจใหม่

ปัจจุบัน FrontierDAO ดำเนินงานสองแนวทาง

• Viction Vanguard แพลตฟอร์มสำหรับผู้มีส่วนร่วม พร้อมระบบคะแนน โปร่งใส และรางวัลจริง
• Viction Local Chapters เครือข่ายที่ฝังตัวจริงในหลายประเทศ เช่น ไทย เกาหลี ตุรกี แอฟริกา ฯลฯ

แนวคิด Contributor Economy จึงเกิดขึ้นจริงให้ผู้คนเป็นเจ้าของผลของความพยายามของตนเองผ่านระบบที่เป็นธรรม

‍

เพราะสิ่งที่มีความหมาย ควรเป็นของคุณ

สิ่งที่มีความหมายในชีวิตแต่ละคนไม่เหมือนกัน สำหรับบางคนอาจเป็นชุมชนที่สร้างมาด้วยกัน สำหรับบางคนอาจเป็นงานศิลปะ คอนเทนต์ หรือความภาคภูมิใจในท้องถิ่น

Viction ไม่ได้มอบแค่เทคโนโลยี แต่สร้าง “พื้นที่” ที่ให้คุณนำสิ่งเหล่านั้นมาสร้างคุณค่าและ “เป็นเจ้าของ” ได้อย่างแท้จริง

ลองจินตนาการว่า…

• ครีเอเตอร์สามารถสร้าง NFT แล้วเก็บรายได้จากผลงานตลอดชีวิต
• เจ้าของธุรกิจท้องถิ่นสามารถให้รางวัลลูกค้าด้วยโทเค็นที่มีมูลค่าจริง
• คนธรรมดาสามารถร่วมสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่ โดยไม่ต้องมีอำนาจทุน
• ผู้ใช้ทั่วไปสามารถเก็บและควบคุมตัวตนดิจิทัลของตัวเองได้ 100%

ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นแล้วใน ecosystem ของ Viction

โลกใหม่ที่คุณไม่ใช่แค่ “ผู้ใช้งาน” แต่คือ “เจ้าของ”

เมื่อเศรษฐกิจดิจิทัลเริ่มขยับไปสู่รูปแบบที่ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียม แนวคิดของ “Ownership Economy” ก็กลายเป็นแกนกลางที่ขับเคลื่อนอนาคตและ Viction กำลังพิสูจน์ว่า การเป็นเจ้าของไม่จำเป็นต้องมีทุนสูง ไม่จำเป็นต้องเก่งเทคโนโลยี ขอแค่ “คุณรู้ว่าสิ่งไหนมีคุณค่ากับคุณจริง ๆ”  Viction พร้อมให้คุณเริ่มต้นและเติบโตไปด้วยกัน

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ : https://cointelegraph.com/press-releases/viction-drives-global-adoption-of-the-ownership-economy-with-scalable-web3-platform

ทำความรู้จัก Viction เพิ่มเติมได้ที่ :
🔹 viction.xyz
🔹 blog.viction.xyz
🔹 twitter.com/BuildOnViction
🔹 t.me/buildonviction
🔹 discord.viction.link

#OwnWhatMatters #Viction

‍