Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ 3 แห่งได้ร่วมกันเผยแพร่เอกสารที่เน้นย้ำถึง "ความเสี่ยงสำคัญ" ที่ธนาคารจะต้องพิจารณาหากต้องการให้บริการรับฝากคริปโตสำหรับลูกค้า โดยแม้จะยืนยันว่า “เอกสารฉบับนี้ไม่ได้สร้างมาตรฐานกำกับดูแลใหม่” แต่ถือเป็นแนวทางเบื้องต้นให้ธนาคารพิจารณาหากกำลังคิดเข้าสู่ตลาดคริปโต
เอกสารฉบับนี้มีชื่อว่า “Crypto-Asset Safekeeping by Banking Organizations” จัดทำร่วมกันโดย 3 หน่วยงานหลัก ได้แก่ Federal Deposit Insurance Corporation (FDIC), Office of the Comptroller of the Currency (OCC) และคณะกรรมการธนาคารกลางสหรัฐฯ (Federal Reserve Board)
เอกสารระบุว่า การให้บริการรับฝากคริปโตต้องใช้ ทรัพยากรและการควบคุมภายในอย่างมาก โดยธนาคารต้องประเมินหลายด้าน เช่น
นอกจากนี้ ธนาคารยังต้องรับผิดชอบ การควบคุมความเสี่ยงของผู้ให้บริการรับฝากบุคคลที่สาม เช่น หากผู้ให้บริการเหล่านี้ถูกแฮก ธนาคารก็ยังต้องรับผิดชอบอยู่ดี
ตัวอย่างเช่น BlackRock ใช้ Coinbase และ Anchorage เป็นผู้ดูแลสินทรัพย์คริปโตของตน ขณะที่ BNY Mellon ซึ่งเป็นธนาคารที่เก่าแก่ที่สุดในสหรัฐฯ ก็ให้บริการดูแลสินทรัพย์ดิจิทัลเช่นกัน
ธนาคารต้องมี ระบบตรวจสอบ (audit) ที่เข้าใจลักษณะเฉพาะของสินทรัพย์ดิจิทัล เช่น การสร้างกุญแจเข้ารหัส การควบคุมการโอนสินทรัพย์ และการมีบุคลากรผู้เชี่ยวชาญในด้านคริปโต หากธนาคารไม่มีระบบเหล่านี้ภายใน ก็ต้องจ้างผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกมาประเมินอย่างจริงจัง
แม้คำเตือนจากภาครัฐจะชัดเจน แต่ก็มีสัญญาณว่า ธนาคารหลายแห่งเริ่มสนใจคริปโตมากขึ้น เช่น รายงานของ The Wall Street Journal เมื่อเดือนพฤษภาคมระบุว่า กลุ่มธนาคารใหญ่ในสหรัฐฯ อยู่ระหว่างการหารือเพื่อตั้ง stablecoin ร่วมกัน
ขณะเดียวกัน หน่วยงานกำกับดูแลก็ผ่อนปรนข้อจำกัดหลายอย่าง เช่น ธนาคารกลางสหรัฐฯ ได้ถอดเกณฑ์ “ความเสี่ยงต่อชื่อเสียง (Reputational Risk)” ที่เคยใช้จำกัดแบงก์ในธุรกิจคริปโต และในปี 2025 FDIC ก็ได้ประกาศ “รีเซตนโยบาย” เปิดทางให้แบงก์ทำธุรกิจคริปโตได้มากขึ้น
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ระดับสูงยังออกจดหมายเปิดทางให้ธนาคารซื้อขายคริปโตในนามลูกค้าได้ เช่น จดหมายของรักษาการผู้ควบคุมสถาบันการเงิน Rodney Hood
ในทางกลับกัน บางบริษัทคริปโตเองก็พยายามเข้าสู่ระบบธนาคาร เช่น Ripple ได้ยื่นขอใบอนุญาตธนาคารกับ OCC ไปเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม ขณะที่ Circle ซึ่งเป็นผู้ออกเหรียญ USDC ก็มีแผนเดียวกัน
อ้างอิง : https://cointelegraph.com/news/fdic-agencies-crypto-custodial-risks-banks
ภาพ swanbitcoin.com