Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

June 29, 2025
ข่าว
1
min read

ทรัมป์ย้ำ “Bitcoin คืออนาคตของเศรษฐกิจสหรัฐฯ” ช่วยบรรเทาความกดดันจากดอลลาร์

ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ กล่าวยกย่องบทบาทของ Bitcoin ว่าเป็นเครื่องมือสำคัญในการลดแรงกดดันต่อ ค่าเงินดอลลาร์ พร้อมย้ำว่าอุตสาหกรรมคริปโตได้กลายเป็นภาคส่วนสำคัญต่อเศรษฐกิจอเมริกันแล้ว

ระหว่างการแถลงข่าวที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ทรัมป์ระบุว่า

“ผมเป็นแฟนของคริปโต มันได้กลายเป็นอุตสาหกรรมที่น่าทึ่ง สร้างงานจำนวนมาก และตอนนี้ผู้คนก็เริ่มใช้ Bitcoin ในการชำระเงินกันมากขึ้น มันช่วยลดแรงกดดันจากดอลลาร์ และถือว่าเป็นเรื่องดีต่อประเทศของเรา”

Bitcoin และภาวะ “Triffin Dilemma”

นักวิจัยสินทรัพย์ดิจิทัล Anders X ชี้ว่า คำพูดของทรัมป์อาจสื่อถึง “ภาวะ Triffin Dilemma” — ความขัดแย้งระหว่างบทบาทของสหรัฐในฐานะผู้ออก สกุลเงินสำรองของโลก กับความจำเป็นในการรักษาเสถียรภาพทางการเงินภายในประเทศ

ในบริบทนี้ สหรัฐฯ ต้องดำเนินนโยบาย ขาดดุลการค้า อย่างต่อเนื่อง เพื่อป้อนดอลลาร์เข้าสู่ระบบการเงินโลก ส่งผลให้เกิดแรงกดดันด้าน เงินเฟ้อ และลดมูลค่าของดอลลาร์ในระยะยาว ซึ่ง Bitcoin ในฐานะสินทรัพย์ที่มี จำนวนจำกัด (supply-capped) อาจกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจมากขึ้น

ทรัมป์เคยเสนอไอเดียใช้ Bitcoin ชำระหนี้รัฐบาล

ก่อนหน้านี้ ทรัมป์เคยแสดงความเห็นว่า Bitcoin อาจสามารถนำมาใช้เพื่อชำระ หนี้สาธารณะของสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่ากว่า 37 ล้านล้านดอลลาร์ แล้วเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์หลายฝ่ายมองว่า แม้กระทรวงการคลังจะครอบครอง Bitcoin ทั้งหมดในโลก ก็ยังไม่เพียงพอที่จะลบล้างภาระหนี้ขนาดมหาศาลนี้ได้

ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า ท่ามกลางความกังวลเรื่องหนี้และเครดิต

ล่าสุด ดัชนีค่าเงินดอลลาร์ (DXY) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงพุ่งสูง แสดงถึงความไม่มั่นใจของนักลงทุนต่อความสามารถในการชำระหนี้ของรัฐบาล

Lyn Alden นักเศรษฐศาสตร์มหภาคและนักสนับสนุน Bitcoin เรียกปรากฏการณ์นี้ว่า

“Nothing stops this train” — ขบวนรถไฟหนี้ที่ไม่มีใครหยุดได้ รัฐบาลทั่วโลกจะยังคงพิมพ์เงินต่อไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

ในภาพรวม คำกล่าวของทรัมป์ถือเป็นสัญญาณว่า Bitcoin อาจกลายเป็น “ตัวช่วยสำคัญ” สำหรับเศรษฐกิจสหรัฐฯ ในวันที่ ความเชื่อมั่นในดอลลาร์เริ่มสั่นคลอน

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ coindesk.com

ข่าวที่คุณอาจสนใจ