Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
บริษัท Strategy ภายใต้การนำของ Michael Saylor ซึ่งถือเป็นบริษัทมหาชนที่ถือครอง Bitcoin (BTC) มากที่สุดในโลก เปิดเผยว่าในไตรมาส 2 ปี 2025 บริษัททำกำไร ยังไม่ขาย (Unrealized Gain) จากการถือครอง BTC ไปกว่า 14,050 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 518,000 ล้านบาท พร้อมแจ้งภาระภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีอีกกว่า 4,040 ล้านดอลลาร์
ตามเอกสารที่ยื่นต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา ระบุว่า:
“ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2025 บริษัทมีสินทรัพย์ดิจิทัลในงบดุลรวม 64,360 ล้านดอลลาร์ พร้อมภาระภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี 6,310 ล้านดอลลาร์”
แม้บริษัทจะถือครอง BTC ไว้เป็นจำนวนมาก แต่ Strategy ได้หยุดซื้อ Bitcoin เป็นครั้งแรก นับตั้งแต่เดือนเมษายน โดยยอดถือครองยังคงอยู่ที่ 597,325 BTC หลังการซื้อรอบล่าสุดจำนวน 4,980 BTC
การหยุดซื้อนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ราคาบิทคอยน์ร่วงลงมาแตะ $105,400 เมื่อวันอังคาร ก่อนจะดีดตัวกลับขึ้นไปเหนือ $110,000 ในวันพฤหัสบดี (ข้อมูลจาก CoinGecko)
ก่อนหน้านี้ Strategy เคยหยุดซื้อ BTC ชั่วคราวมาแล้วเมื่อต้นปี เมื่อราคาลดต่ำกว่า $87,000 ก่อนจะกลับมาซื้ออีกครั้งในวันที่ 14 เมษายน จำนวน 3,459 BTC ต่อจากรอบใหญ่เมื่อ 31 มีนาคม ที่ซื้อไปถึง 22,048 BTC
ตัวเลขกำไรยังไม่ขายของ Strategy ในไตรมาส 2 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์ของ Bloomberg คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 13,000 ล้านดอลลาร์ แสดงให้เห็นถึงอัตราการเติบโตของพอร์ต Bitcoin ที่เหนือความคาดหมาย
นอกจากรายงานผลประกอบการแล้ว Strategy ยังเปิดเผยการออกโปรแกรม ระดมทุนแบบ At-the-Market (ATM) มูลค่า 4.2 พันล้านดอลลาร์ ภายใต้หุ้น STRD (Stride Series A Preferred Stock)
ภายใต้ข้อตกลงใหม่นี้ บริษัทสามารถออกและขายหุ้น STRD ได้ในราคาหุ้นละ $0.001 โดย STRD เป็นหุ้นบุริมสิทธิแบบจ่ายผลตอบแทนถาวร (Perpetual Preferred Stock) รุ่นใหม่
ก่อนหน้านี้ Strategy เคยระดมทุนผ่านหุ้น STRK (Stride Series K) มูลค่ารวมกว่า $21 พันล้าน โดยกลไก ATM นี้เปิดโอกาสให้บริษัทค่อย ๆ ขายหุ้นในตลาด เพื่อใช้เงินไปซื้อ Bitcoin เพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง
จากการนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน Strategy รายงานว่า:
ปัจจุบันยังมี วงเงินเหลือสำหรับระดมทุน ATM ทั้งหมดรวมกว่า $44.8 พันล้าน ได้แก่:
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ coindesk.com