Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
กองทุน Spot Bitcoin ETF มีเงินไหลออกสุทธิรวม $872 ล้านระหว่างวันที่ 3 ถึง 10 เมษายน ซึ่งทำให้นักเทรดหลายคนเริ่มสงสัยว่าความสนใจใน Bitcoin กำลังลดลงหรือไม่ โดยแรงขายเริ่มแรงขึ้นตั้งแต่วันที่ 3 เมษายน สอดคล้องกับความตึงเครียดทางการค้าทั่วโลกที่เพิ่มขึ้นและความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย
เทรนด์ดังกล่าวยิ่งน่าเป็นห่วงเมื่อกองทุน ETF บิทคอยน์มีปริมาณเงินไหลเข้า–ออกต่ำมากไม่ถึง $2 ล้านทั้งในวันที่ 11 และ 14 เมษายน ขณะที่ราคา Bitcoin ยังคงทรงตัวอยู่ที่ประมาณ $83,000 ตลอด 5 สัปดาห์ที่ผ่านมา บ่งบอกถึงแรงซื้อและขายที่อ่อนแอพอๆ กัน
ในอีกมุมหนึ่ง ความไม่มีความผันผวนนี้อาจสะท้อนว่า Bitcoin เริ่มกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น บริษัทหลายแห่งในดัชนี S&P 500 ร่วงจากจุดสูงสุดมากกว่า 40% ในขณะที่การร่วงลงมากที่สุดของ Bitcoin ในปี 2025 อยู่ที่เพียง 32%
อย่างไรก็ตาม ผลงานของ Bitcoin ในปีนี้กลับทำให้นักลงทุนที่เชื่อมั่นในแนวคิด “ทองคำดิจิทัล” ต้องผิดหวัง เพราะทองคำกลับเพิ่มขึ้นถึง 23% ในปี 2025 นี้ โดยทำจุดสูงสุดใหม่ที่ $3,245 เมื่อวันที่ 11 เมษายน แม้ว่า Bitcoin จะให้ผลตอบแทนดีกว่า S&P 500 ถึง 4% ในช่วง 30 วันที่ผ่านมา แต่การที่มันไม่มีความสัมพันธ์กับสินทรัพย์อื่น ๆ และไม่ทำหน้าที่เป็นแหล่งเก็บมูลค่าอย่างที่คาดไว้ ก็ทำให้นักลงทุนบางส่วนเริ่มไม่มั่นใจในบทบาทของ Bitcoin
หากพิจารณาเฉพาะตลาด Spot Bitcoin ETF พบว่ายังมีปริมาณซื้อขายที่แข็งแกร่ง ในวันที่ 14 เมษายน ปริมาณซื้อขายรวมของ ETF เหล่านี้อยู่ที่ $2.24 พันล้าน แม้จะต่ำกว่าค่าเฉลี่ย 30 วันที่ $2.75 พันล้านถึง 18% แต่ก็ยังถือว่าสูงมากเมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์การลงทุนอื่น ๆ
แม้ว่าจะยังตามหลัง ETF S&P 500 (SPY) ที่มีการซื้อขายเฉลี่ย $54 พันล้านต่อวัน แต่ Spot Bitcoin ETF ก็มีปริมาณการซื้อขายที่มากกว่า ETF พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ($2.1 พันล้าน) และไล่ตาม ETF ทองคำที่ $5.3 พันล้านได้อย่างใกล้เคียง ซึ่งถือว่าน่าประทับใจมาก เพราะ Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐเพิ่งเปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2024 เท่านั้น ในขณะที่ ETF ทองคำเปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว
รวมถึงกองทุนอย่าง Grayscale Bitcoin Trust (GBTC) ซึ่งแปลงสถานะเป็น ETF ในภายหลัง ก็ช่วยหนุนภาพรวมตลาดให้เติบโต ปัจจุบัน Spot Bitcoin ETF ถือครองสินทรัพย์รวมประมาณ $94.6 พันล้าน ซึ่งมากกว่ามูลค่าตลาดของบริษัทใหญ่ ๆ อย่าง British American Tobacco, UBS, ICE, BNP Paribas, Cigna และ Sumitomo Mitsui
หนึ่งในหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่า Spot Bitcoin ETF เริ่มเป็นที่ยอมรับในวงการการเงิน คือ รายชื่อผู้ถือครองหลักที่ประกอบด้วยบริษัทชื่อดัง เช่น Brevan Howard, D.E. Shaw, Apollo Management, กองทุน Mubadala Investment และกองทุนบำเหน็จบำนาญรัฐวิสคอนซิน
จากกองทุนบำเหน็จไปจนถึงบริษัทบริหารสินทรัพย์ชั้นนำ เผยว่า Spot Bitcoin ETF กลายเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจ แม้ราคาจะนิ่งในช่วงสั้น ๆ แต่ศักยภาพในการเติบโตยังมีอยู่มาก
ในอนาคต หากผลิตภัณฑ์ทางการเงินอื่น ๆ อย่างฟิวเจอร์สและออปชันถูกพัฒนาต่อเนื่อง Bitcoin อาจถูกนำไปบรรจุในดัชนีโลก ไม่ว่าจะในหมวดสินค้าโภคภัณฑ์หรือสกุลเงิน ซึ่งจะเปิดประตูให้กองทุนแบบ Passive เข้าลงทุนมากขึ้น และอาจช่วยหนุนราคาและปริมาณการซื้อขายในระยะยาว
ดังนั้น การขาดการเคลื่อนไหวของเงินทุนเข้า–ออกที่ชัดเจนในตอนนี้ ไม่ควรถูกตีความว่าเป็นจุดอ่อนของตลาด
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ linkedin.com