Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Rari Capital เป็นโปรโตคอลการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi) ล่าสุดที่ตกเป็นเหยื่อของโจมตี โดนมูลค่าความเสียหายอยู่ที่ $11 ล้าน หรือกว่า 300 ล้านบาท
แพลตฟอร์มได้ยืนยันการถูกโจมตีผ่านทางทวีต และกล่าวว่าการสอบสวนกำลังจะเกิดขึ้น:
https://twitter.com/RariCapital/status/1391050253621678080?s=20
ตามที่เปิดเผยโดยแฮ็กเกอร์ Whitehat ที่ชื่อ Emiliano Bonassi กล่าวว่า ฏารโจมตีนี้ดูเหมือนจะเป็นการใช้ประโยชน์จาก “evil contract" ซึ่งผู้โจมตีจะ 'หลอกล่อ' สัญญาให้คิดว่า hostile contract ควรมีการเข้าถึงหรือได้รับอนุญาต โดย Alpha Finance ประกาศในทวีตว่าการแฮ็กเกี่ยวข้องกับ ibETH vault ของ Rari แต่ไม่มีกองทุน Alpha ที่อยู่ในความเสี่ยง
https://twitter.com/AlphaFinanceLab/status/1391046927349784589?s=20
ปัจจุบันกระเป๋าเงินของแฮ็กเกอร์มีเงิน 4,005 ETH ซึ่งมีมูลค่ามากกว่า 15,000,000 ดอลลาร์ แต่ส่วนหนึ่งของเงินเหล่านั้นดูเหมือนจะมาจากการโจมตีอื่น ๆ
เช่นเดียวกับการโจมตีหลาย ๆ ครั้งก่อนหน้านี้ ผู้โจมตีดูเหมือนจะส่งข้อความถึงทีม Rari แต่มีการยกเลิกการทำธุรกรรม เนื่องจากเขาจ่ายค่าธรรมเนียมต่ำเกิน อย่างไรก็ตามผู้สังเกตการณ์สามารถสังเกตเห็นข้อความได้ว่าเป็นธุรกรรมที่รอดำเนินการก่อนที่จะถูกยกเลิก:
https://twitter.com/bantg/status/1391054251388964867?s=20
การชดเชยผู้ใช้งานที่ได้รับผลกระทบจากการแฮ็ก กำลังกลายเป็นแนวทางปฏิบัติที่ใช้กันทั่วไปมากขึ้น โดยล่าสุด EasyFi ได้เปิดเผยแผนการจ่ายผลตอบแทนของพวกเขาหลังจากโดยโจมตีไปกว่า 60 ล้านดอลลาร์
ทีม Rari Capital มักตกเป็นเป้าหมายของทั้งการสนับสนุนจากชุมชนและการวิจารณ์ เนื่องจากมีรายงานว่ามีนักพัฒนาของทีมคนหนึ่งอายุเพียง 15 ปี ด้วยเหตุนี้จึงมีบางคนวิพากษ์วิจารณ์ทีมพัฒนา แต่คนอื่น ๆ ก็ตั้งข้อสังเกตว่าแนวทางปฏิบัติด้านความปลอดภัยใน DeFi มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และได้รับการสนับสนุนอย่างรวดเร็วสำหรับทีมรวมถึง SushiSwap CTO Joseph Delong:
https://twitter.com/josephdelong/status/1391050241734967297?s=20
RGT ซึ่งเป็นโทเค็นของ Rari ราคาลดลง 23.24% มาอยู่ที่ 13.35 ดอลลาร์จากข่าว การโดนโจมตีดังกล่าว
เมื่อวานนี้โครงการ DeFi "Value" ก็เพิ่งโดนโจมตีอีกรอบและราคาโทเค็น vBSWAP ก็ลดลงมากกว่า 90% โดยล่าสุด โครงการได้ระบุว่า กำลังทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจาก peckshield และ certik_io เพื่อวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง รวมถึงได้ติดต่อกับทีมงานของ Binance เพื่อป้องกันไม่ให้แฮ็กเกอร์ดำเนินการอะไรต่อไปได้
https://twitter.com/value_defi/status/1391040328388399107?s=20
อ้างอิง : LINK