Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
ชุมชน Monero (XMR) กำลังตื่นตัวหลังเกิดเหตุ 51% Attack โดยกลุ่มขุด Qubic ที่สามารถครองพลังขุดส่วนใหญ่ของเครือข่ายได้ในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดข้อถกเถียงอย่างหนักว่าควรมีการ ปรับเปลี่ยนกลไก Proof-of-Work (PoW) เพื่อยกระดับความปลอดภัยของเครือข่าย
หลายข้อเสนอถูกหยิบยกขึ้นมา เช่น
ระบบ ChainLocks อาศัย Masternodes ที่ถูกสุ่มเลือก เพื่อสร้างความเห็นพ้อง (quorum) ในบล็อกที่ถูกเผยแพร่ครั้งแรก และ “ล็อก” ไว้ไม่ให้ถูกเขียนทับ แม้จะมีบล็อกจากผู้ไม่หวังดีที่มีพลังขุดมากกว่า
ปัจจุบัน Qubic ถือครองพลังขุดกว่า 2.18 GH/s ขึ้นแท่นเป็นพูลขุดที่ใหญ่ที่สุดของเครือข่าย Monero ตามข้อมูลจาก MiningPoolStats ขณะที่ Supportxmr ครองอันดับสองที่ 1.18 GH/s
แม้ผู้ใช้บางส่วนในชุมชน Monero อ้างว่า Qubic ไม่ได้ยึดเครือข่ายจริง แต่เพียงแค่ทำ Block Reorganization อย่างจำกัด แต่ผลกระทบก็ชัดเจน เพราะ Kraken ได้สั่ง ระงับการฝากเหรียญ Monero ชั่วคราว ก่อนกลับมาเปิดใหม่ โดยกำหนดให้ต้องรอ 720 Confirmations ถึงจะโอนสำเร็จ
สิ่งที่น่าจับตาคือ Qubic ได้เปิดโหวตภายในชุมชน และเสียงส่วนใหญ่กว่า 300 โหวต เลือกให้ Dogecoin (DOGE) เป็นเป้าหมายการขุดครั้งต่อไป อย่างไรก็ตาม Sergey Ivancheglo ผู้ก่อตั้ง Qubic ระบุว่า การพัฒนาเพื่อให้ขุด DOGE ได้จริงนั้นต้องใช้เวลาหลายเดือน ตอนนี้จึงยังคงมุ่งที่ Monero เป็นหลัก
การโจมตีครั้งนี้สะท้อนความเปราะบางของเครือข่ายที่พยายามต้านการใช้ ASIC ขุด โดย Joel Valenzuela แกนกลางของ Dash DAO เตือนว่า “ทุกบล็อกเชนที่ไม่ใช้ ASIC ควรกังวลเรื่องนี้” และแม้แต่บล็อกเชนที่ใช้ ASIC ก็ต้องมีโครงสร้างเศรษฐกิจที่แข็งแรงพอ ไม่เช่นนั้นก็เสี่ยงถูกโจมตีได้เช่นกัน
ชุมชน Monero จึงยังต้องจับตาอย่างใกล้ชิดว่าจะเลือกใช้แนวทางใด เพื่อให้เครือข่ายยังคงรักษาจุดเด่นด้าน ความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย ต่อไปในอนาคต
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ cryptoslate.com