กฎหมายใหม่ว่าด้วย Stablecoin ในชื่อ “GENIUS Act” กำลังจะกลายเป็นความจริง หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายฉบับนี้เมื่อวันพฤหัสฯ ที่ผ่านมา โดยมีแผนให้ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เซ็นรับรองอย่างเป็นทางการในวันศุกร์ เวลา 14:30 น. ตามเวลาวอชิงตัน ดี.ซี.
หากเซ็นแล้ว กฎหมายจะเริ่มมีผลบังคับใช้ภายใน 18 เดือน หรือภายใน 120 วันหลังจากหน่วยงานกำกับหลักอย่างกระทรวงการคลังและธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ออกข้อบังคับรองที่เกี่ยวข้อง
ประเด็นสำคัญใน GENIUS Act ที่อุตสาหกรรมคริปโตต้องรู้
- Stablecoin ต้องมีทุนสำรองแบบ 1:1
ผู้ออกเหรียญ Stablecoin ที่ได้รับอนุญาตจะต้องสำรองมูลค่าเหรียญทั้งหมดด้วยดอลลาร์สหรัฐหรือสินทรัพย์การเงินที่ยอมรับ เช่น พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ และต้องเปิดเผยโครงสร้างทุนสำรองต่อสาธารณะ พร้อมผ่านการตรวจสอบจากบริษัทบัญชีที่จดทะเบียน - ห้ามให้ดอกเบี้ยกับผู้ถือเหรียญ
ส่วนที่สร้างความไม่พอใจให้ผู้ใช้งานคริปโตจำนวนมากคือข้อห้ามที่ไม่อนุญาตให้ผู้ออก Stablecoin แจกดอกเบี้ยหรือ Yield ไม่ว่าจะเป็นผู้ออกในสหรัฐฯ หรือต่างประเทศที่ให้บริการในตลาดสหรัฐฯ - แรงจูงใจให้ขอใบอนุญาตธนาคาร
แม้ GENIUS Act จะมีใบอนุญาตเฉพาะสำหรับผู้ออก Stablecoin แต่ข้อจำกัดด้านกิจกรรมที่สามารถทำได้ ทำให้หลายบริษัทอาจเลือกขอใบอนุญาตระดับธนาคารระดับประเทศ เช่นเดียวกับที่ Circle และ Ripple เคยทำ เพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจหลากหลายและไม่ต้องขออนุญาตรัฐต่อรัฐ - Stablecoin ต่างชาติจะถูกห้าม หากไม่ทำตามกฎหมายสหรัฐฯ
หลังจากกฎหมายมีผล 3 ปี Stablecoin ใด ๆ ที่ไม่ได้รับอนุญาตจะถูกห้ามให้บริการในสหรัฐฯ เว้นแต่ผู้ออกจะสามารถปฏิบัติตามข้อกำหนดของ GENIUS Act ได้ โดยมีข้อยกเว้นในกรณีประเทศต้นทางมีระบบกำกับดูแลที่ใกล้เคียงกัน และสามารถลงทะเบียนกับหน่วยงาน OCC ของสหรัฐฯ ได้ภายใน 30 วัน - เตรียมจัดระเบียบ DeFi ในอนาคต
แม้ GENIUS Act ยังไม่ได้ลงรายละเอียดเกี่ยวกับ DeFi แต่ผู้เชี่ยวชาญคาดว่าจะมีการออกกฎหมายหรือระเบียบเสริมเพิ่มเติมภายในไม่กี่ปีข้างหน้า โดยจะรวมถึงกฎหมาย CLARITY Act ที่กำลังพิจารณาในวุฒิสภาด้วย
กฎหมายนี้สำคัญอย่างไรต่ออนาคต Stablecoin?
GENIUS Act ถือเป็นกฎหมายฉบับแรกในสหรัฐฯ ที่วางกรอบการกำกับดูแล Stablecoin อย่างเป็นระบบ เปิดทางให้สถาบันการเงินดั้งเดิม รวมถึงผู้ออกเหรียญต่างชาติ สามารถให้บริการในตลาดสหรัฐฯ ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ในขณะเดียวกันก็เพิ่มความโปร่งใสและความมั่นใจให้กับผู้บริโภคในวงกว้าง
อย่างไรก็ตาม ความเข้มงวดของกฎหมาย เช่น การห้ามแจกดอกเบี้ย และการกำหนดทุนสำรองแบบ 1:1 ก็อาจทำให้หลายโครงการต้องปรับโมเดลธุรกิจครั้งใหญ่
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ ccn.com
.svg)
.svg)
