Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

June 15, 2025
ข่าว
1
min read

IPO คริปโตบูม! MEXC–Circle–Gemini นำขบวนสู่ตลาดหุ้น ชี้สัญญาณอุตสาหกรรมเข้าสู่ยุคสถาบัน

จากโลกคริปโตที่เคยดูวุ่นวายและไร้ระเบียบ ปัจจุบันได้เปลี่ยนภาพลักษณ์ไปอย่างสิ้นเชิง กลายเป็นอุตสาหกรรมที่มีการบริหารจัดการอย่างมืออาชีพ มีการตรวจสอบบัญชีทางการเงิน มีแผนสร้างรายได้ที่ชัดเจน และพร้อมต่อการขยายธุรกิจในระยะยาว

หลายแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตที่เริ่มต้นจากโครงการเล็ก ๆ ของนักพัฒนาในช่วงวันหยุด ตอนนี้มีทีมงานด้านกฎหมาย ฝ่ายสื่อสารกับนักลงทุน และแผนกลยุทธ์ด้านเงินทุนเหมือนกับสถาบันการเงินรายใหญ่ MEXC ซึ่งเป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตระดับโลก ประกาศว่า “ตอนนี้เราพร้อมสำหรับการเข้าตลาดหุ้นแล้ว” ตามคำกล่าวของ Tracy Jin ประธานฝ่ายปฏิบัติการ (COO) ของบริษัท

IPO ของบริษัทคริปโตมาแรง – Circle, Gemini และ Bullish ร่วมวง

เมื่อวันที่ 5 มิถุนายน Circle ผู้ออกเหรียญ USDC ได้เข้าระดมทุนในตลาดหุ้นอย่างเป็นทางการ และสามารถระดมทุนได้ถึง 1.1 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นการเปิดตัวที่เกินความคาดหมาย ราคาหุ้นพุ่งถึง 167% ในวันแรก

ต่อมาในวันที่ 6 มิถุนายน Gemini แพลตฟอร์มซื้อขายคริปโตของฝาแฝด Winklevoss ก็ได้ยื่นเอกสารเข้าตลาดหุ้นสหรัฐฯ แบบลับ ๆ เช่นเดียวกับ Bullish แพลตฟอร์มคริปโตที่ได้รับการสนับสนุนจาก Peter Thiel นักลงทุนชื่อดัง ซึ่งยื่นเอกสารตามมาในวันที่ 10 มิถุนายน

Tracy Jin ระบุว่า บรรยากาศตลาดขาขึ้นและกระแสเงินที่หลั่งไหลเข้าสู่ ETF ของ Bitcoin และ Ether ในสหรัฐฯ เป็นแรงผลักดันสำคัญ ทำให้ราคาประเมินมูลค่าของบริษัทต่าง ๆ สูงขึ้น และสร้าง “ความรู้สึกมั่งคั่ง” ให้กับนักลงทุนรายแรก ๆ ซึ่งเปิดโอกาสให้เกิดการเข้าตลาดหุ้นในเวลานี้

กฎระเบียบชัดเจน คือปัจจัยหนุน IPO ไม่ใช่แค่ความรู้สึก

อย่างไรก็ตาม การที่บรรยากาศเป็นบวกอย่างเดียวไม่เพียงพอ Tracy Jin ชี้ว่าการที่หน่วยงานกำกับดูแลเริ่มให้ความชัดเจนเรื่องกฎเกณฑ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมาย MiCA ในยุโรป และการอนุมัติ ETF ในสหรัฐฯ มีส่วนสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงให้กับนักลงทุนสถาบัน

“หลายปีที่ผ่านมา ความไม่ชัดเจนทางกฎหมายในประเทศอย่างสหรัฐฯ ทำให้นักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ไม่กล้าเข้าใกล้คริปโต” – Jin กล่าว

แม้กฎเกณฑ์ที่มีตอนนี้จะยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ก็ถือว่าเป็นโครงสร้างที่เพียงพอในการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับบริษัทคริปโตที่ต้องการเข้าตลาดหุ้น

เธอยังเสริมว่า อุตสาหกรรมคริปโตในปัจจุบันเติบโตอย่างเห็นได้ชัด ด้วยการมีระบบตรวจสอบบัญชี การกำกับดูแลกิจการ และรายได้ที่ยั่งยืนจากบริการต่าง ๆ เช่น การรับฝากสินทรัพย์ (custody) การ staking และการซื้อขาย

บริษัทคริปโตแบบไหนจะรุ่ง?

Tracy Jin มองว่า บริษัทที่น่าจะประสบความสำเร็จในยุค IPO นี้ คือกลุ่มที่เน้นโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) หรืออยู่ในแวดวงฟินเทคมากกว่าบริษัทที่เน้นขายเหรียญอย่างเดียว ตัวอย่างเช่น บริการวิเคราะห์ข้อมูลบล็อกเชน ผู้ให้บริการฝากสินทรัพย์อย่างปลอดภัย บริการ staking และผู้ออก stablecoin ต่าง ๆ

“กระแส IPO นี้จะยังไปได้ต่อ แต่จะเลือกเฉพาะบริษัทที่มีโมเดลธุรกิจชัดเจนและป้องกันการแข่งขันได้เท่านั้น” – Jin กล่าว

เอเชียกำลังเป็นดาวรุ่งในโลกคริปโต

Tracy Jin ยังมองว่า เอเชียอาจกลายเป็นศูนย์กลางคลื่นลูกใหม่ในวงการคริปโต โดยยกตัวอย่างกรณีของ Metaplanet ที่นำกลยุทธ์สะสม Bitcoin แบบ MicroStrategy มาใช้ในญี่ปุ่น ซึ่งกำลังเผชิญกับปัญหาค่าเงินอ่อน และมองว่า BTC เป็นเครื่องมือป้องกันความเสี่ยง

นอกจากนี้ เธอยังกล่าวถึงการออกตราสารการเงินใหม่ ๆ ที่ผูกกับคริปโต เช่น convertible notes ซึ่งให้อัตราผลตอบแทน พร้อมเปิดโอกาสให้ได้รับกำไรจากราคาคริปโตที่เพิ่มขึ้น

“บรรดาธนาคารยักษ์ใหญ่ทั้ง Goldman Sachs และ JP Morgan อาจเริ่มออกผลิตภัณฑ์การเงินเชื่อมโยงกับคริปโตมากขึ้นในอนาคต” – Jin คาดการณ์

แม้สถาบันการเงินยังไม่พร้อมถือคริปโตไว้ในงบดุลโดยตรง แต่เครื่องมือเหล่านี้สามารถเป็น “พิมพ์เขียว” ของการนำคริปโตเข้าสู่กระแสหลักอย่างค่อยเป็นค่อยไป

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ menosfios.com

ข่าวที่คุณอาจสนใจ