Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
ระดับความยากในการขุดลดลงเล็กน้อยในวันเสาร์ หลังจากแตะระดับสูงสุดตลอดกาลที่ 126.9 ล้านล้าน เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม ซึ่งเป็นช่วงเริ่มต้นของช่วงปรับระดับความยากครั้งก่อน โดยระดับความยากในการขุด Bitcoin ในปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 126.4 ล้านล้าน ตามข้อมูลจาก CryptoQuant
แม้หลัง Bitcoin Halving ต้นทุนการขุดจะสูงขึ้นและราคา BTC ยังผันผวนจากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและการเมือง แต่บริษัทเหมืองรายใหญ่ในสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าขุดและสะสม BTC อย่างต่อเนื่อง
ข้อมูลล่าสุดจากแพลตฟอร์ม TheMinerMag ระบุว่า บริษัท Marathon Digital (MARA) และ CleanSpark (CLSK) เป็นสองผู้เล่นหลักที่มีการผลิต BTC เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจนในเดือนพฤษภาคม 2025
Marathon Digital ขุด Bitcoin ได้ถึง 956 BTC ในเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา มากกว่าทุกบริษัทในกลุ่มบริษัทเหมืองจดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐฯ และมียอดสะสม BTC ทั้งหมดในคลังที่ 17,857 BTC
ถึงแม้จะมีรายงานว่าบริษัทมีการขาย BTC จำนวนหนึ่งหลัง Halving แต่ MARA ยังคงถือ BTC เป็นจำนวนมากที่สุดในกลุ่มบริษัทเหมืองที่จดทะเบียนในตลาด
CleanSpark มีผลการดำเนินงานที่น่าจับตา โดยมีกำลังการขุดรวม (Hashrate) เพิ่มเป็น 45.6 EH/s ส่งผลให้สามารถผลิต BTC ได้ถึง 417.2 เหรียญ ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้น 9% จากเดือนเมษายน
บริษัทมียอดสะสม BTC ที่ 6,154 เหรียญ และยังเป็นบริษัทที่มีอัตราการเติบโตของผลผลิตสูงที่สุดในกลุ่มนักขุดสหรัฐฯ
แม้ต้นทุนจะสูงขึ้น แต่ความแข็งแกร่งของเครือข่าย Bitcoin ก็เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในช่วงเดือนพฤษภาคม ค่า Hashrate เฉลี่ยของเครือข่ายแตะ 1 ZH/s (zettahash ต่อวินาที) เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
การที่ Hashrate เพิ่มขึ้น หมายความว่าการแข่งขันในเครือข่ายเข้มข้นขึ้น และเครือข่ายปลอดภัยขึ้น ส่งผลให้ Bitcoin Difficulty (ความยากในการขุด) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง
บทวิเคราะห์จาก TheMinerMag ชี้ว่า บริษัทเหมืองรายใหญ่กำลังปรับกลยุทธ์ใหม่ จากการขาย BTC ที่ขุดได้ทันที มาเป็นการ “สะสมไว้ในงบดุล” เหมือนกับบริษัทลงทุนรายใหญ่
พฤติกรรมนี้สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในอนาคตของ Bitcoin และการปรับตัวสู่การเป็นธุรกิจที่มีสภาพคล่องและบริหารสินทรัพย์ดิจิทัลในแบบมืออาชีพมากขึ้น
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ decrypt.co