Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

July 24, 2025
ข่าว
1
min read

Block ของ Jack Dorsey เข้าร่วม S&P 500 อย่างเป็นทางการ! เป็นหนึ่งในบริษัทที่ถือ Bitcoin มากที่สุดในโลก

บริษัทเทคโนโลยี Block Inc. ที่ก่อตั้งโดย Jack Dorsey ได้เข้าร่วมดัชนี S&P 500 อย่างเป็นทางการ กลายเป็นบริษัทจดทะเบียนรายที่ 3 ที่มีการถือครอง Bitcoin ในระดับองค์กร และเป็นสมาชิกของดัชนีหุ้นสำคัญระดับโลกนี้

ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ BitcoinTreasuries.NET ปัจจุบัน Block ถือครอง Bitcoin จำนวน 8,584 เหรียญ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้บริษัทอยู่ในอันดับที่ 13 ของโลกในแง่ของการถือครอง BTC ในระดับองค์กร

หลังการประกาศเข้าร่วม S&P 500 ราคาหุ้นของ Block ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (NYSE) ได้พุ่งขึ้นเกือบ 14% ภายในเวลาเพียง 5 วัน สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนอย่างชัดเจน

การเข้าร่วม S&P 500 เปิดทาง Bitcoin สู่พอร์ตนักลงทุนสถาบัน

ดัชนี S&P 500 เป็นตัวชี้วัดสำคัญของตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่รวบรวมบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่ 500 แห่ง โดยมีมูลค่ารวมของดัชนีแตะระดับ 50 ล้านล้านดอลลาร์ ณ สิ้นไตรมาสแรกของปี 2025

การที่ Block ได้เข้าร่วมดัชนีนี้ หมายความว่า นักลงทุนที่ซื้อกองทุนดัชนี (ETF) หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินที่อิงกับ S&P 500 จะได้รับการ เปิดรับทางอ้อมต่อสินทรัพย์ Bitcoin ด้วย

บัญชีผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์ม X ที่ชื่อ OnlyCalls แสดงความคิดเห็นว่า

“การที่บริษัทคริปโตเข้าสู่ S&P 500 คือการยืนยันว่า Bitcoin กำลังได้รับการยอมรับในเชิงการเงินอย่างจริงจัง”

พร้อมเสริมว่า บริษัทและสถาบันอนุรักษนิยมจำนวนมากอาจเริ่มพิจารณา Bitcoin เป็นทรัพย์สินในคลัง (Treasury Asset) ในอนาคต

สำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ Block ได้เข้ามาแทนที่ Hess Corp. บริษัทพลังงานของสหรัฐฯ ที่หลุดออกจากดัชนีหลังควบรวมกิจการกับ Chevron มูลค่า 55,000 ล้านดอลลาร์

เปรียบเทียบบริษัทถือ BTC ใน S&P 500

นอกจาก Block ยังมีอีก 2 บริษัทที่อยู่ใน S&P 500 และถือ Bitcoin ไว้ในคลัง ได้แก่:

  • Tesla: ถือ BTC จำนวน 11,509 เหรียญ มูลค่าราว $1.4 พันล้าน
  • Coinbase: ถือ BTC จำนวน 9,267 เหรียญ มูลค่าประมาณ $1.1 พันล้าน

ข้อมูลจาก Google Finance ระบุว่าในช่วง 30 วันที่ผ่านมา ราคาหุ้นของ Coinbase ปรับขึ้นถึง 28.4% ซึ่งสูงกว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดคริปโตโดยรวม (ที่เพิ่มขึ้น 23% ในช่วงเดียวกัน ตามข้อมูลจาก CoinGecko)

ในทางกลับกัน หุ้นของ Tesla ปรับลดลงเล็กน้อยประมาณ 4.6% ในช่วงเดือนที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่าเกี่ยวข้องกับปัจจัยภายในของบริษัท มากกว่าราคา Bitcoin โดยตรง

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ finance.yahoo.com

ข่าวที่คุณอาจสนใจ