Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
Tim Draper นักลงทุนชื่อดังและผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท VC อย่าง Draper Associates เชื่อว่า “ดอลลาร์สหรัฐฯ จะถึงจุดจบภายใน 10-20 ปี” ซึ่งจะส่งผลต่อกลไกการขึ้นลงราคาของ Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ
เขาให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า “โลกกำลังเปลี่ยนไปต่อหน้าต่อตาเรา นี่คือจุดเปลี่ยนทางวัฒนธรรม (Anthropological Leap Forward) ที่เกิดขึ้นจริง”
ตั้งแต่ปี 2009 ราคาของ Bitcoin มักเคลื่อนไหวเป็นรอบ ๆ ตามวัฏจักร Halving หรือการลดรางวัลของนักขุดลงครึ่งหนึ่งทุก 4 ปี ซึ่งมักเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดกระทิง แต่ Draper เชื่อว่าในอนาคตอาจไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกต่อไป
“หาก Bitcoin ยังคงวิ่งแซงหน้าดอลลาร์ได้ต่อเนื่อง ผลกระทบจาก Halving อาจลดลง” – Tim Draper
เขาเสริมว่า แรงขับเคลื่อนมหภาค เช่น ความไม่ไว้วางใจในรัฐบาล เงินเฟ้อ และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ กำลังผลักดันให้ผู้คนหันมาใช้ Bitcoin มากขึ้นในฐานะ “วาล์วระบาย” ที่ไว้ใช้หนีจากปัญหาของระบบเศรษฐกิจเดิม
ในขณะที่บางฝ่ายยังถกเถียงกันว่า วัฏจักร 4 ปีของ Bitcoin ยังทำงานอยู่หรือไม่ Seamus Rocca ซีอีโอของ Xapo Bank เชื่อว่ายังไม่ตาย แต่หลายฝ่ายรวมถึง Draper เองเชื่อว่า Bitcoin กำลังก้าวเข้าสู่บทบาทใหม่ในฐานะ “สินทรัพย์มหภาค” เต็มรูปแบบ ที่ตอบโจทย์ในยุคที่ธนาคารแบบเดิมขาดความเชื่อมั่น
Jeff Park นักวิเคราะห์จาก Bitwise เคยทำนายไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า การลดลงของค่าเงินดอลลาร์ เงินเฟ้อ ความขัดแย้งทางการเมือง และนโยบายกีดกันทางการค้าจะช่วยผลักดัน Bitcoin ให้เข้าสู่กระแสหลักของโลก
แม้ว่ารัฐบาลทรัมป์จะผลักดัน Stablecoin ที่อิงกับดอลลาร์เพื่อรักษาฐานะเงินสำรองโลก แต่ Max Keiser ผู้สนับสนุน Bitcoin กลับมองว่า Stablecoin เป็นแค่ “ตัวแทนชั่วคราว” และสุดท้ายจะถูก Bitcoin หรือเหรียญที่มีทองหนุนหลังแซงหน้าไปในระยะยาว
“หากคนเชื่อว่าเหรียญทั้งสองฝั่งมีเสถียรภาพ พวกเขาก็จะเลือกเหรียญที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่าเสมอ” – Reeve Collins ผู้ร่วมก่อตั้ง Tether
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ