นักขุด Bitcoin รายได้ต่ำสุดในรอบปี แต่ยัง "ฮึบไว้" ไม่เทขาย!

แม้ว่ารายได้จากการขุด Bitcoin จะลดลงอย่างเห็นได้ชัดในช่วงปลายเดือนมิถุนายน แต่รายงานใหม่จาก CryptoQuant ชี้ให้เห็นว่านักขุดส่วนใหญ่ยังคงเลือกที่จะถือครองเหรียญไว้ ไม่ยอมขายออกแม้กำไรจะลดฮวบ

เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน รายได้ของนักขุด Bitcoin ลดลงเหลือเพียง 34 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งถือเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่วันที่ 20 เมษายนที่ผ่านมา โดยสาเหตุหลักมาจากค่าธรรมเนียมธุรกรรมที่ลดลงและราคาของ BTC ที่อ่อนตัวลง

นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant อธิบายว่า รายได้ที่ลดลงนั้นมาจากกิจกรรม Ordinal inscription ที่เคยทำให้ค่าธรรมเนียมสูงในช่วงต้นไตรมาสเริ่มจางหายไป

ในรายงานระบุว่า ดัชนี Miner Profit/Loss Sustainability ซึ่งใช้วัดความยั่งยืนของกำไรนักขุดตอนนี้ได้เข้าสู่โซน "ต่ำมาก" หรือ "underpaid" อย่างชัดเจน

Hashrate เริ่มลด แต่ยังไม่เห็นสัญญาณ "ยอมแพ้"

Hashrate หรือกำลังประมวลผลของเครือข่าย Bitcoin ลดลง 3.5% ตั้งแต่วันที่ 16 มิถุนายน ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ช่วงหลังเหตุการณ์ Halving ในเดือนกรกฎาคม 2024 อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจาก CryptoQuant ยืนยันว่านักขุดยังไม่ได้แสดงสัญญาณของการ "เทขายเหรียญ" ออกมา

แม้รายได้ลดลง แต่จำนวนเหรียญที่ถูกโอนออกจากกระเป๋าของนักขุดก็ลดลงจากระดับสูงสุด 23,000 BTC ต่อวันในเดือนกุมภาพันธ์ เหลือเพียงประมาณ 6,000 BTC เท่านั้น
รวมถึงการโอนไปยัง Exchange ก็ยังอยู่ในระดับต่ำ แสดงให้เห็นว่านักขุดส่วนใหญ่ยังเลือกจะ "ถือ" มากกว่า "ขาย"

จากการประเมิน นักขุดยังคงมีมาร์จิ้นหรือกำไรเฉลี่ยราว 48% ซึ่งทำให้พวกเขาเชื่อว่าตลาดยังมีความหวังและเลือกที่จะรอแทนที่จะขายขาดทุน

นักลงทุนรายใหญ่ยังสะสม Bitcoin ต่อเนื่อง

รายงานยังระบุด้วยว่า นักขุดกลุ่มที่ถือครอง BTC ระหว่าง 100–1,000 เหรียญ ได้เพิ่มการสะสมจาก 61,000 BTC ในสิ้นเดือนมีนาคม เป็น 65,000 BTC ในปัจจุบัน ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2024
พฤติกรรมการสะสมนี้มักเกิดก่อนช่วงที่ราคาจะเริ่มฟื้นตัวในรอบใหม่

ในอีกด้านหนึ่ง กระเป๋าเก่าจากยุค Satoshi ก็มีการเคลื่อนไหวเพียงเล็กน้อย โดยในปีนี้มีการขายออกเพียง 150 BTC เท่านั้น ต่างจากปี 2024 ที่มีการขายเป็นพันเหรียญ

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าแม้นักขุดยังมีแรงต้าน แต่ต้นทุนพลังงานที่เพิ่มขึ้นและความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบอาจกระทบกับกำไรและสร้างแรงกดดันในระยะต่อไป

‍

อ้างอิง : news.bitcoin.com