“พิชัย จาวลา” ชี้ Bitcoin จบขาขึ้นรอบนี้ แนะนักลงทุนอย่าเพิ่งเข้าหุ้นไทย

รายการ Money Chat Thailand ได้เชิญคุณพิชัย จาวลา นักลงทุนและนักกลยุทธ์การเงินชื่อดัง มาร่วมวิเคราะห์แนวโน้มเศรษฐกิจและตลาดการเงิน โดยเฉพาะในประเด็นที่หลายคนกำลังจับตาอย่างใกล้ชิดอย่าง Bitcoin, ตลาดหุ้นไทย และทิศทางเงินทุนของต่างชาติ

Bitcoin จบรอบขาขึ้น – ควรรอจังหวะใหม่

คุณพิชัยแสดงความเห็นอย่างชัดเจนว่า “Bitcoin จบรอบขาขึ้นของมันแล้ว” โดยให้เหตุผลว่า การที่ราคาไม่สามารถไปต่อได้หลังจากทำจุดสูงสุดใหม่ และมีแรงขายจากสถาบันบางส่วน เริ่มส่งสัญญาณว่าตลาดเข้าสู่ภาวะพักตัว

เขาเน้นว่า นักลงทุนไม่ควรหลงเชื่อกระแสหรือบทวิเคราะห์ที่มาจาก “ฝูงชนในโลกออนไลน์” ซึ่งมักจะพูดไปในทิศทางเดียวกัน เช่น คาดการณ์ว่าราคาจะไป $150,000 หรือสูงกว่านั้น ทั้งที่ตลาดเริ่มแสดงอาการหมดแรง โดยเฉพาะเมื่อไม่มีแรงซื้อใหม่เข้ามาหนุนอย่างเพียงพอ

“คุณจะอยู่รอดได้ในตลาดรอบใหม่ ถ้าคุณเป็นคนเพื่อนน้อย” – พิชัยกล่าว

คำว่า “คนเพื่อนน้อย” ในที่นี้ หมายถึงนักลงทุนที่คิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง ไม่ไหลไปตามกระแส และรู้จัก “ถอย” เมื่อสัญญาณในตลาดเปลี่ยนแปลง ไม่ยึดติดกับสิ่งที่เคยทำกำไรให้ในอดีต

หุ้นไทยยังไม่ใช่จังหวะเข้าลงทุน – ต่างชาติยังไม่กลับ

แม้หลายคนมองว่าหุ้นไทยถูกและน่าลงทุน แต่คุณพิชัยกลับมองว่า “ยังไม่ใช่จังหวะ” เพราะแรงซื้อต่างชาติยังไม่กลับมา และปัจจัยพื้นฐานเศรษฐกิจในประเทศยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวชัดเจน

เขาชี้ให้เห็นว่า ในช่วงที่ค่าเงินบาทยังอ่อนและดอกเบี้ยไทยสูง การดึงดูดเงินทุนจากต่างประเทศต้องอาศัย “ความมั่นใจในนโยบายรัฐ” ซึ่งยังไม่เพียงพอ ขณะที่ภาคธุรกิจยังต้องเผชิญกับภาระต้นทุนการเงินที่สูง

“อย่าเพิ่งลงทุน เพราะหุ้นไทยยังไม่มีเงินเข้า” – เขาย้ำ

ยุคของการกลั่นกรองข้อมูล – และหลีกเลี่ยงการ “ตกเป็นเหยื่อ” ของคอนเทนต์

หนึ่งในประเด็นที่คุณพิชัยเน้นย้ำคือ ภาวะตลาดในปัจจุบันเต็มไปด้วย “คอนเทนต์ทางการเงิน” ซึ่งมีทั้งข้อมูลจริงและกระแสสร้างภาพความมั่งคั่งในโลกโซเชียล นักลงทุนต้องรู้เท่าทัน และตั้งคำถามกับทุกคำแนะนำ

เขายกตัวอย่างกรณีที่นักวิเคราะห์ชื่อดังหลายคนที่เคยทำนายผิดซ้ำ ๆ แต่ยังคงได้รับความนิยม เพราะนำเสนอได้ดี และมีความสามารถในการสร้าง Engagement ในโซเชียลมีเดีย ซึ่งในความเป็นจริง “ไม่ได้แปลว่าเขาคือผู้ชนะในตลาด”

มองตลาดแบบ "นอกเมทริกซ์" และไม่กลัวการพักเงินสด

พิชัยยังย้ำถึงแนวคิด “มองตลาดจากนอกเมทริกซ์” หมายถึงการไม่จมอยู่กับข้อมูลที่บิดเบือนหรือสร้างความเชื่อแบบฝูงชน การมี “เงินสดในมือ” จึงไม่ใช่เรื่องเสียเปรียบในช่วงที่ตลาดไม่มีจังหวะลงทุนที่ดี เพราะนักลงทุนที่กล้ารอ คือคนที่ได้เปรียบเมื่อโอกาสมาถึง

เขายังเสริมว่า นักลงทุนมืออาชีพระดับโลกอย่าง Stanley Druckenmiller หรือ Ray Dalio ล้วนเคยบอกว่า “การไม่ลงทุนก็ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุน” ในช่วงที่ข้อมูลขัดแย้งกันและตลาดเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน

‍