Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
อัยการรัฐบาลกลางบอสตันตั้งข้อกล่าวหา Gotbit, ZM Quant, CLS Global และ MyTrade ตลอดจนผู้นำและพนักงานของพวกเขา ซึ่งเกี่ยวข้องกับการจับกุมผู้ต้องหาบางรายในระดับนานาชาติด้วย ตามที่สำนักข่าว Reuters รายงาน
กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐฯ ได้ดำเนินการโดยถือเป็น “การดำเนินคดีอาญาครั้งแรกกับบริษัทผู้ให้บริการทางการเงิน” ที่เกี่ยวข้องกับการปั่นราคาตลาดและการซื้อขายหลอกลวงในอุตสาหกรรมคริปโตฯ ตามรายงานของสำนักข่าว Reuters
จำเลยทั้งสี่ตกลงที่จะรับสารภาพและยึดสกุลเงินดิจิทัลได้มากกว่า 25 ล้านดอลลาร์ ตามแถลงการณ์ที่ออกโดยสำนักงานอัยการสหรัฐฯ สำหรับเขตแมสซาชูเซตส์
อัยการกล่าวว่าจำเลยก่อตั้งบริษัทคริปโตขึ้นมาและโกหกเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของตน จากนั้นจึงทำการซื้อขายแบบ wash trade เพื่อสร้างภาพลวงตาของกิจกรรมการซื้อขาย เพื่อให้นักลงทุนคิดว่าโทเค็นเหล่านี้เป็นการลงทุนที่ดี ส่งผลให้ราคาของโทเค็นสูงขึ้น จากนั้นจำเลยจึงขายโทเค็นของตนในราคาสูงที่ตั้งขึ้นอย่างไม่เป็นธรรม อัยการกล่าวเสริม
นอกจากนี้บริษัทคริปโตยังจ้าง market maker เพื่อ “ฟอกเงินโทเค็นของตน” อัยการกล่าว โดย market maker เหล่านี้คือ ZM Quant, Gotbit, CLS Global และ MyTrade ตามคำแถลง
FBI ซึ่งมีส่วนร่วมในการสืบสวนด้วย ได้สร้างระบบเข้ารหัสของตัวเองที่เรียกว่า NexFundAI เพื่อค้นหาการประพฤติมิชอบ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ ได้ยื่นฟ้องทางแพ่งต่อ ZM Quant, Gotbit และ CLS Global รวมไปถึงบุคคลอีก 9 รายเมื่อวันพุธ
ก.ล.ต. กล่าวว่า Russell Armand, Maxwell Hernandez, Manpreet Singh Kohli, Nam Tran และ Vy Pham ได้จ้าง “market maker” อย่าง ZM Quant และ Gotbit เพื่อสร้างปริมาณการซื้อขายเทียมหรือจัดการราคาของสกุลเงินดิจิทัลที่พวกเขาเสนอให้กับนักลงทุนรายย่อย
นอกจากนี้ ทางหน่วยงานยังได้เปิดเผยชื่อพนักงานของ ZM Quant ได้แก่ Baijun Ou และ Ruiqi Lau, Fedor Kedrov แห่ง Gotbit และ Andrey Zhorzhes แห่ง CLS Global และกล่าวอีกว่าพวกเขาควบคุมตลาดโดยใช้การซื้อขายแบบ wash trade บน “แพลตฟอร์มการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลยอดนิยม”
“การบังคับใช้กฎหมายในวันนี้แสดงให้เห็นอีกครั้งว่านักลงทุนรายย่อยกำลังตกเป็นเหยื่อของกิจกรรมฉ้อโกงโดยผู้ดำเนินการสถาบันในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัล” Sanjay Wadhwa รองผู้อำนวยการฝ่ายบังคับใช้กฎหมายของ SEC กล่าวในแถลงการณ์ “คนเหล่านี้ร่วมมือกันโดยลงเป้าไปที่นักลงทุนด้วยคำมั่นสัญญาอันเป็นเท็จเกี่ยวกับผลกำไรในตลาดสกุลเงินดิจิทัล นักลงทุนควรตระหนักว่าพวกเขาอาจเสียเปรียบ”
อ้างอิง : theblock.co