มูลค่ารวมที่ถูกล็อคบน DeFi ถึงระดับ 4 พันล้านดอลลาร์แล้ว เพิ่มขึ้น 5 เท่านับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

มูลค่ารวมของเงินที่ถูกล็อคใน Decentralized finance (DeFi) ถึงระดับ 4 พันล้านดอลลาร์แล้วเรียบร้อย ซึ่งเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่านับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา

ตลาด DeFi กำลังระเบิดด้วยความร้อนแรง และเหรียญ DEFI ราคาก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่น เหรียญที่มาแรงที่สุดอย่าง YFI ที่ราคาเพิ่มกว่า 10,000% จนปัจจุบันนั้นก้าวเข้ามาอยู่ใน 100 อันดับแรกของ cryptocurrencies แล้ว

ด้านมูลค่ารวมที่ถูกล็อคบน DeFi ผ่านทาง smart contract ของ ethereum ก็เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยเมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม มูลค่ารวมที่ถูกล็อคในโปรโตคอล DeFi มีมูลค่าสูงถึง 3 พันล้านเหรียญ และในวันที่ 25 กรกฎาคม ก็เพิ่มขึ้นถึงระดับ 4 พันล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลที่รวบรวมจาก DeFi Pulse

โปรโตคอล DeFi peer-to-peer decentralized สามอันดับแรกที่ครอบครองส่วนแบ่งพื้นที่นี้คือ Maker ที่มีมูลค่าของเงินที่ถูกล็อค $875 ล้าน ตามมาด้วย Aave $639 ล้าน และ Compound $616 ล้าน ตามลำดับ

ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมที่สูงยังคงเป็นอุปสรรคสำคัญสำหรับ Ethereum

ในขณะที่ ETH ได้รับประโยชน์จากกระแสของ DeFi แต่ค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมของเครือข่ายก็พุ่งสูงขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยข้อมูลจาก CoinMetrics เผยว่าค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมเฉลี่ยอยู่ที่ 0.5658 ณ วันที่ 21 กรกฎาคมซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบสองปี

https://twitter.com/QWQiao/status/1277281069784543232?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1277281069784543232%7Ctwgr%5E&ref_url=https%3A%2F%2Fzycrypto.com%2Fthe-total-value-locked-in-defi-markets-hits-whopping-4-billion-as-ethereum-price-explodes-past-300%2F

ข่าวดีก็คือทางออกสำหรับปัญหาการปรับขนาดของ ethereum, ก็คือการอัพเกรด ETH 2.0 ที่กำลังจะเปิดตัวในปีนี้ (หรือไม่?) โดยร่วมก่อตั้ง ethereum Vitalik Buterin เผยว่าการอัพเกรดนี้จะเพิ่มความยืดหยุ่นในการปรับขนาด , ความปลอดภัยและ proof-of-stake ซึ่งจะลดค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมลงได้

อ้างอิง : LINK