Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
มีความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามองในวงการคริปโต เมื่อกระเป๋า Ethereum จำนวน 2 ใบที่ไม่ได้ใช้งานมานานเกือบ 10 ปี กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง โดยมีการโอนเหรียญรวม 1,140 ETH คิดเป็นมูลค่าประมาณ 2.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 94 ล้านบาท
กระเป๋าทั้งสองเริ่มต้นด้วยเลข “0x27” และ “0x7f” ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ 30 กรกฎาคม 2015 ซึ่งเป็นวันเปิดตัว Ethereum mainnet ซึ่งเป็นช่วงที่เรียกว่า "Frontier" และได้รับเหรียญจากธุรกรรมประเภท “GENESIS” บนเว็บไซต์ Etherscan หมายความว่าได้รับ ETH ตั้งแต่วันเปิดตัวเครือข่ายเลยทีเดียว
Ethereum เปิดตัวในปี 2015 โดยใช้กลไก Proof-of-Work (PoW) เช่นเดียวกับ Bitcoin ในช่วงแรก ก่อนจะเปลี่ยนเป็น Proof-of-Stake (PoS) ในเดือนกันยายน 2022 ซึ่งเป็นช่วงที่เรียกว่า The Merge เพื่อลดการใช้พลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย
ข้อมูลจาก TradingView ระบุว่า ราคา ETH ได้เพิ่มขึ้นถึง 89,450% ตั้งแต่วันแรกจนถึงปัจจุบัน เรียกได้ว่า การถือครองเหรียญตั้งแต่ยุค GENESIS ทำให้เจ้าของกระเป๋าเหล่านี้กลายเป็นเศรษฐีไปแล้วโดยไม่ต้องขยับเหรียญเลยเป็นเวลานานเกือบสิบปี
การกลับมาเคลื่อนไหวของกระเป๋ายุคแรกไม่ใช่เหตุการณ์เดียวที่เกิดขึ้นในปีนี้ ก่อนหน้านี้ในวันศุกร์ที่ผ่านมา กระเป๋า Bitcoin จำนวน 3 ใบที่ถูกทิ้งไว้นานกว่า 14 ปีก็ถูกเปิดใช้งาน โอนเหรียญมูลค่าหลายพันล้านบาท
ขณะที่ตลอดปี 2024 ก็มีการเคลื่อนไหวของกระเป๋า Bitcoin ยุค Satoshi หลายใบ ที่โอนเหรียญมูลค่ารวมเกือบ 44 ล้านดอลลาร์
Ethereum ยังอยู่ในช่วงของการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดนักพัฒนาได้ปล่อยอัปเกรดใหม่ชื่อว่า Pectra ตั้งแต่วันที่ 7 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยมาพร้อมฟีเจอร์สำคัญหลายด้าน เช่น
หลังการอัปเกรด ราคาของ ETH เพิ่มขึ้นจากประมาณ $1,812 ไปอยู่ที่ $2,540 ภายในไม่กี่สัปดาห์ ข้อมูลจาก CoinMarketCap ยืนยันความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum และนักวิจัย Toni Wahrstätter ได้นำเสนอข้อเสนอใหม่เกี่ยวกับการจำกัดปริมาณ Gas ต่อธุรกรรม ไว้ที่ 16.77 ล้าน
วัตถุประสงค์ของข้อเสนอนี้คือการ:
นักพัฒนามองว่าข้อจำกัดนี้จะช่วยให้ Ethereum มีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากขึ้นในระยะยาว
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ news.bitcoin.com