Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
นักลงทุนสถาบันแห่เข้าลงทุน Bitcoin ส่งผลให้ความผันผวนของราคาลดลง พร้อมเพิ่มการเข้าถึงสำหรับนักลงทุนทั่วไปอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ปัจจุบัน ETF Bitcoin แบบ Spot มีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารรวมกว่า 138 พันล้านดอลลาร์ โดยมีผู้เข้าร่วมหลักได้แก่ที่ปรึกษาการลงทุน (RIA), กองทุนเฮดจ์ฟันด์ และกองทุนบำเหน็จบำนาญ
การเข้ามาของกลุ่มทุนขนาดใหญ่เหล่านี้ ไม่เพียงแต่ช่วย ลดความผันผวนของราคา Bitcoin แต่ยังช่วยยกระดับความน่าเชื่อถือ ทำให้ Bitcoin กลายเป็น “เครื่องมือเก็บมูลค่า” ที่มั่นคง และเริ่มถูกพิจารณาว่าเป็น สื่อกลางการชำระเงินในอนาคต
ต่างจากนักลงทุนรายย่อยที่มักซื้อขายตามอารมณ์ นักลงทุนสถาบันมักถือครองสินทรัพย์ระยะยาว และ “ถัวเฉลี่ยต้นทุน” แทนที่จะรีบขายเมื่อราคาตก
ข้อมูลระบุว่า ความผันผวน 30 วันของ Bitcoin ลดลงอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปี 2023–2026 โดยลดจากระดับสูงถึง 158% ในรอบก่อน เหลือเพียง 35% เทียบเท่ากับ S&P 500 และใกล้เคียงกับทองคำ
เมื่อ ETF Bitcoin เปิดให้ลงทุนได้ผ่านโบรกเกอร์ทั่วไปและบัญชีเกษียณ (pension funds) นักลงทุนรายย่อยและบริษัทต่าง ๆ ก็สามารถเข้าถึง Bitcoin ได้โดยไม่ต้องถือครองเอง
ในเวลาเพียง 18 เดือน Bitcoin ETF สะสม AUM กว่า 143 พันล้านดอลลาร์ โดยมีแนวโน้มว่าเงินลงทุนจากภาคสถาบันจะเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
ตัวอย่างเช่น Ric Edelman ที่ปรึกษาการเงินชื่อดังแนะนำว่า
เพียงแค่ 1% ของเงินทุนที่บริหารโดยที่ปรึกษาการลงทุนในสหรัฐฯ ซึ่งมีมูลค่ารวมกว่า 146 ล้านล้านดอลลาร์ ก็สามารถดันมูลค่าตลาด Bitcoin ขึ้นได้อีกมากกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์
ETF ที่ถือ Bitcoin ไม่เพียงแค่เพิ่มมูลค่า แต่ยังช่วย เปลี่ยนบทบาทของ Bitcoin จากสินทรัพย์เสี่ยงเป็นระบบการเงินทางเลือก สำหรับโลกยุคใหม่
แม้กระบวนการนี้จะนำมาซึ่งความเสี่ยง เช่น ความรวมศูนย์ หรือผลกระทบจากกฎระเบียบที่มากขึ้น แต่ก็เป็นสัญญาณชัดเจนว่า Bitcoin กำลังก้าวจากการเป็น “กระแสใต้ดิน” สู่กระแสหลักของโลกการเงิน
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ insidebitcoins.com