Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
ด้วยข่าวล่าสุดเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อของดอลลาร์สหรัฐฯ ได้กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยามากมายจากชุมชนคริปโต โดยสังเกตว่าเหตุการณ์ดังกล่าวควรผลักดันผู้คนให้เข้าหา Bitcoin ( BTC ) มากขึ้น เนื่องจากมองว่า Bitcoin ว่าเป็นการป้องกันความเสี่ยงที่มีประสิทธิภาพต่ออัตราเงินเฟ้อของดอลลาร์สหรัฐ
เมื่อเร็ว ๆ นี้ สำนักงานสถิติแรงงานสหรัฐรายงานการเพิ่มขึ้น 7.5% ในส่วนของดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ที่ใช้บ่อยที่สุดสำหรับอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งทางด้าน Nicholas Merten ผู้ก่อตั้ง Digifox อธิบายว่าเงินดอลลาร์อาจมีมูลค่าครึ่งหนึ่งของมูลค่าปัจจุบันในปีต่อ ๆ ไปในอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบัน
https://twitter.com/Nicholas_Merten/status/1491775671361810434?s=20&t=R9yZLodUp6oKEP6WT9KvZw
Jo Jorgensen นักการเมืองก็ได้แสดงความเห็นของเธอในการ “เข้าร่วมใน Bitcoin” ผ่านโพสต์บน Facebook ขณะที่นักวิเคราะห์คริปโตอย่าง Lark Davis ก็ได้ใช้โอกาสนี้แซวเกี่ยวกับการขาย BTC ในตอนนี้ ซึ่งเป็น "การป้องกันความเสี่ยงจากเงินเฟ้อ" ในขณะที่ "เงินเฟ้อกำลังบ้าคลั่ง"
https://twitter.com/TheCryptoLark/status/1491964630091976705
ในขณะเดียวกัน Changpeng Zhao ซีอีโอของ Binance ก็ใช้โอกาสนี้เพื่อโปรโมต Bitcoin และ Binance Coin ( BNB ) ผ่านบัญชี Twitter ของเขา โดยยืนยันว่าทั้งสองเหรียญนั้นไม่มีอัตราเงินเฟ้อ
https://twitter.com/cz_binance/status/1491779156643770368?s=20&t=tbalAe9cJRvfKCIxs0iCrA
ในทางกลับกัน นักลงทุน crypto Anthony Pompliano ได้แบ่งปันคำพูดถึงเงินเฟ้อจากนักเศรษฐศาสตร์ที่มีชื่อเสียงชาวอเมริกัน Milton Friedman ว่า "เงินเฟ้อคือการเก็บภาษีที่ไม่จำเป็นต้องมีการออกกฎหมายมารับรอง"
https://twitter.com/APompliano/status/1491881430015696899?s=20&t=OPX_oQOKCh_4eTjs0R3RnA
อัตราเงินเฟ้อเป็นตัววัดมูลค่าที่ลดลงของสกุลเงิน และส่งผลให้ราคาสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ซึ่งมักจะเกิดขึ้นเมื่อราคาของสินทรัพย์ลดลงและอุปทานเพิ่มขึ้น ตัวอย่างเช่น หากสหรัฐอเมริกายังคงพิมพ์ดอลลาร์มากขึ้นกำลังซื้อของ USD อาจอ่อนค่าลง และทำให้ราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น