Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

June 2, 2025
ข่าว
1
min read

Hester Peirce ย้ำชัด SEC ไม่ช่วย! นักลงทุนมีมคอยน์อย่าหวังพึ่งรัฐ ถ้าเงินหายคือจบกันไป

Hester Peirce กรรมาธิการของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) ให้สัมภาษณ์กับ CNBC เมื่อวันศุกร์ โดยระบุว่า:

“โดยทั่วไป คนควรรู้ว่าไม่ควรคาดหวังการคุ้มครองจาก SEC สำหรับการลงทุนในมีมคอยน์”

Peirce ได้รับการแต่งตั้งจากอดีตประธานาธิบดี Donald Trump ในปี 2018 และปัจจุบันเป็นหัวหน้าทีม Crypto Task Force ซึ่งเพิ่งจัดตั้งขึ้นใหม่ภายใน SEC

เมมคอยน์ไม่ได้อยู่ในขอบเขตดูแลของ SEC

Peirce ย้ำว่ามีมคอยน์ส่วนใหญ่ “ไม่ใช่หลักทรัพย์ตามกฎหมายปัจจุบัน” และจึงไม่อยู่ภายใต้การควบคุมของ SEC เธอยังแนะนำว่าอาจจะเหมาะกว่า หากให้หน่วยงานอย่าง CFTC (สำนักงานกำกับการซื้อขายล่วงหน้า) เป็นผู้ดูแล

ในการให้สัมภาษณ์ที่งาน Bitcoin 2025 Peirce ระบุว่า:

  • ถึงแม้จะสามารถออกแบบให้การลงทุนแบบใดก็ได้ “ดูเหมือนเป็นหลักทรัพย์”
  • แต่มีมคอยน์ส่วนใหญ่ ไม่มีคุณสมบัติเป็นหลักทรัพย์ตามกฎหมาย
  • และผู้ลงทุนไม่ควรคาดหวังว่า SEC จะเข้ามาช่วยเมื่อเกิดการขาดทุน

เธอยังเปรียบเทียบกระแสมีมคอยน์ว่าเหมือนกับ NFT ที่เคยเป็นที่นิยมสูงช่วงหนึ่ง แล้วราคาก็ตกลงฮวบในภายหลัง เพราะไม่มีมูลค่าพื้นฐานรองรับ

เมมคอยน์ $TRUMP สร้างความปั่นป่วน นักเทรดรายย่อยเจ็บหนัก

มีมคอยน์ที่เชื่อมโยงกับประธานาธิบดี Donald Trump อย่าง $TRUMP เคยพุ่งขึ้นไปมีมูลค่าตลาดสูงถึง $30,000 ล้าน ก่อนวันเข้ารับตำแหน่ง แต่หลังจากนั้นราคาก็ร่วงหนัก นักลงทุนรายย่อยขาดทุนรวมกว่า $2,000 ล้าน

ขณะที่ฝั่งที่ควบคุมเหรียญ (ซึ่งเป็นหน่วยงานใกล้ชิด Trump) ที่ถือเหรียญมากกว่า 80% ของซัพพลาย กลับทำกำไรกว่า $100 ล้าน ผ่านค่าธรรมเนียมการเทรดก่อนวันที่ 30 มกราคม

นอกจากนี้ ยังมีรายงานว่า กลุ่มใกล้ชิด Melania Trump ภริยาของทรัมป์ ได้ซื้อมีมคอยน์ของเธอเองก่อนเปิดตัวไม่นาน และทำกำไรอีกกว่า $100 ล้าน

ดราม่างานเลี้ยง “สายถือเหรียญ” จุดประเด็นขัดผลประโยชน์

เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา Trump ได้จัดงานเลี้ยงสำหรับผู้ถือเหรียญ $TRUMP รายใหญ่ 220 คน ซึ่งจุดประเด็นวิจารณ์ในวงกว้าง โดยมีผู้เข้าร่วมจำนวนมากที่ขายเหรียญไปแล้วก่อนวันงาน

มีสมาชิกสภาหลายรายแสดงความกังวลว่า งานนี้อาจเป็นช่องทางให้บริษัทต่างชาติเข้าถึงตัวทรัมป์ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์แต่ทางทำเนียบขาวได้ออกมาปฏิเสธว่าไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ใด ๆ

สรุป: นักลงทุนเมมคอยน์ ต้อง “ดูแลตัวเอง”

ความคิดเห็นล่าสุดของ Peirce ชี้ชัดว่า นักลงทุนที่สูญเสียเงินจากการลงทุนในมีมคอยน์ ไม่สามารถหวังพึ่ง SEC ได้ เนื่องจากสินทรัพย์เหล่านี้ มักไม่เข้าเกณฑ์การกำกับดูแล และยังถูกใช้เป็นเครื่องมือหลอกลวง (scam) หรือ rug-pull อยู่บ่อยครั้ง

อ้างอิง : cryptoslate.com

ข่าวที่คุณอาจสนใจ