Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
ราคา Bitcoin ที่เคยพุ่งแตะจุดสูงสุดใหม่ที่ $112,000 ในปีนี้ กำลังเผชิญแรงกดดันครั้งใหม่ หลังจากร่วงลงต่ำกว่า $105,000 ซึ่งทำให้ความหวังที่จะไปแตะเป้าหมาย $150,000 ภายในปี 2025 เริ่มสั่นคลอนอีกครั้ง
นักวิเคราะห์ด้านเทคนิคเริ่มเห็นสัญญาณ “Bearish Divergence” บนกราฟรายสัปดาห์ ซึ่งคล้ายกับช่วงปี 2021 ที่ราคาบิทคอยน์พุ่ง แต่ดัชนี RSI กลับลดลง สุดท้ายราคาก็ย่อลงแรงถึง 61% สู่ระดับ 200-week EMA ซึ่งในรอบนี้ หากซ้ำรอยเดิม BTC อาจดิ่งลงไปถึง $64,000 หรือราว 52% จากจุดสูงสุด
เมื่อดูจากโครงสร้างราคา ณ วันที่ 7 มิถุนายน บิทคอยน์กำลังเข้าสู่ช่วง "Handle" ของรูปแบบ inverse cup-and-handle ซึ่งแนวรับหลักอยู่ที่ราว $100,800 หากหลุดต่ำกว่าระดับนี้ ราคามีโอกาสย่อลงต่อไปที่ $91,000 โดยแนวรับนี้สอดคล้องกับเส้นค่าเฉลี่ย EMA 200 วัน
นอกจากนี้ RSI ที่ลดลงเหลือระดับ 52 แสดงถึงแรงขายที่ชัดเจน และหากหลุดต่ำกว่า 50 อาจยิ่งกดดันราคาลงแรงกว่านี้อีก เพื่อให้กลับสู่แนวโน้มขาขึ้น นักเทรดต้องดันราคาให้กลับมายืนเหนือเส้น EMA 20 วันที่ $105,000 ให้ได้
นักวิเคราะห์เทคนิคชื่อดัง Peter Brandt ระบุว่า Bitcoin ต้องกลับมายืนบนเส้นแนวโน้มพาราโบลิกให้ได้ ไม่เช่นนั้นอาจจบรอบขาขึ้นก่อนจะถึงเป้าหมาย $125,000–$150,000 โดยเขาชี้ว่า กราฟ BTC กำลังมีรูปแบบ rising wedge ซึ่งมักเป็นสัญญาณกลับตัวขาลง
หากรอบนี้ไม่ต่างจากอดีต เราอาจได้เห็นการปรับฐานแรง 50–60% ภายในปีนี้
แม้จะมีหลายสัญญาณที่ดูไม่ดี แต่นักวิเคราะห์บางกลุ่มยังคงเชื่อมั่นว่าราคา Bitcoin จะไปถึง $150,000 ได้ในปี 2025 โดยเทียบกับโครงสร้างราคาของทองคำในช่วงปี 2000s ที่เคยพุ่งแรงหลังจากสะสมพลังในระยะหนึ่ง
Tony Severino มองว่าโครงสร้างราคาตอนนี้คล้ายกับรูปแบบ “Bull Flag” ซึ่งหากเกิดการเบรกขึ้นจริง ก็จะส่งราคาไปถึง $150,000 ได้
ด้านนักวิจัยสายออนเชน Axel Adler Jr. เสริมว่าหากค่า NUPL/MVRV ทะลุระดับ 1.0 และยืนได้อย่างมั่นคง ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของคลื่นขาขึ้นรอบใหม่ คล้ายกับช่วงปี 2017 และ 2021 ที่ราคาทะยานขึ้นอย่างรุนแรง
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ finbold.com