Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com
GameStop บริษัทค้าปลีกชื่อดังในสหรัฐฯ ได้ยื่นเอกสารต่อคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ (SEC) เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เผยว่ามีการระดมทุนเพิ่มอีก 450 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ผ่านการเสนอขายหุ้นกู้แบบแปลงสภาพในรอบเพิ่มเติมจากวงเงินเดิม 2.25 พันล้านดอลลาร์
แม้บริษัทไม่ได้ระบุชัดว่าจะนำเงินไปซื้อ Bitcoin แต่ GameStop เคยแสดงความตั้งใจที่จะเพิ่มสินทรัพย์ดิจิทัลเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของงบดุล ซึ่งหมายความว่าการลงทุนใน BTC ยังคงเป็นหนึ่งในความเป็นไปได้ที่สำคัญ
หาก GameStop นำเงิน 450 ล้านดอลลาร์ไปซื้อ Bitcoin ทั้งหมด ณ ราคาปัจจุบันที่ประมาณ $108,000 บริษัทจะสามารถเพิ่มการถือครองได้เกือบ 2 เท่าจากปัจจุบันที่ถืออยู่ 4,710 BTC
หลังจากข่าวการระดมทุนเผยแพร่ ราคาหุ้น GME ปรับลดลง 2.5% ในวันจันทร์ จาก $23.03 ลงมาแตะระดับต่ำสุดที่ $22.45 ก่อนจะฟื้นตัวเล็กน้อยและปิดตลาดที่ $23.55
สถานการณ์นี้คล้ายกับเหตุการณ์ในเดือนพฤษภาคม เมื่อ GameStop ประกาศซื้อ Bitcoin มูลค่า 500 ล้านดอลลาร์ แต่ราคาหุ้นกลับลดลงราว 11% ขณะที่บริษัทอื่น เช่น Metaplanet จากญี่ปุ่น หรือ DigiAsia Corp จากอินโดนีเซีย ราคาหุ้นพุ่งสูงถึง 22–91% หลังประกาศลงทุนใน BTC
Vincent Liu ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนแห่ง Kronos Research ให้ความเห็นว่า การซื้อ Bitcoin เป็นเพียงก้าวแรกในการบริหารความเสี่ยงของงบดุล และการดึงสภาพคล่องเข้าสู่บริษัท ท่ามกลางภาระหนี้จากดอลลาร์สหรัฐฯ ที่สูงขึ้น
“การถือ Bitcoin ต้องมีกลยุทธ์ที่ชัดเจน ถ้าทำแค่เพื่อกระแสหรือไม่ต่อเนื่อง จะไม่สามารถสร้างมูลค่าในระยะยาวได้” — Liu กล่าว
เขาเน้นว่า ความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการดำเนินงานที่โปร่งใส สม่ำเสมอ และสามารถวางตำแหน่งบริษัทให้เชื่อมโยงกับเศรษฐกิจสินทรัพย์ดิจิทัลในระยะยาว
GameStop เคยเปิดตัวกระเป๋าเงินคริปโตและตลาดซื้อขาย NFT ในช่วงกระแส Web3 พุ่งแรง แต่ทั้งสองโปรเจกต์ถูกปิดไปแล้วในปี 2023–2024 ด้วยเหตุผลด้านความไม่แน่นอนของกฎระเบียบ
อย่างไรก็ตาม บริษัทก็ยังคงถูกจับตามองในฐานะ “หุ้นมีม” รายแรกที่เคยสร้างปรากฏการณ์ชอร์ตสควีซในปี 2021 และยังไม่หมดบทบาทในตลาดการเงินยุคใหม่
อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ coindesk.com