Bitcoin Addict เปลี่ยนเว็บไซต์ใหม่เป็น www.bitcoinaddict.com

July 12, 2025
ข่าว
1
min read

จีนส่งสัญญาณใหม่! หน่วยงานรัฐเซี่ยงไฮ้หารือ Stablecoin หยวน-ชี้ฮ่องกงอาจกลายเป็นสนามทดลอง

แม้จะเป็นหนึ่งในประเทศที่มีข้อจำกัดด้านคริปโตเข้มงวดที่สุดในโลก แต่จีนแผ่นดินใหญ่เริ่มมีท่าทีเปลี่ยนแปลงต่อ Stablecoin ท่ามกลางการเคลื่อนไหวล่าสุดในนครเซี่ยงไฮ้

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับดูแลทรัพย์สินของรัฐประจำนครเซี่ยงไฮ้ (Shanghai SASAC) ได้จัดประชุมหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ด้าน Stablecoin และสกุลเงินดิจิทัล ตามรายงานจาก Reuters

หลังการประชุม He Qing ผู้อำนวยการ SASAC โพสต์ข้อความผ่านบัญชีทางการของหน่วยงาน เรียกร้องให้มี

“ความตื่นตัวต่อเทคโนโลยีเกิดใหม่ และการวิจัยเชิงลึกเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล”

การเคลื่อนไหวครั้งนี้เกิดขึ้นหลังมีเสียงเรียกร้องจากภาคเอกชนและผู้เชี่ยวชาญในจีนให้พัฒนา Stablecoin ที่ผูกกับเงินหยวน (Yuan-backed stablecoin)

ธนาคารกลางจีนเริ่มขยับต่อ Stablecoin

ธนาคารกลางจีน (PBOC) เองก็เริ่มพูดถึงการเติบโตของ Stablecoin โดยเฉพาะในบริบทที่สหรัฐฯ ใช้เหรียญอย่าง USDC ของ Circle เป็นหนึ่งในเครื่องมือเสริมความแข็งแกร่งให้กับดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ผู้ว่าการ PBOC อย่าง Pan Gongsheng ยอมรับว่าเทคโนโลยีอย่าง Stablecoin มีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงระบบการชำระเงินทั่วโลก และมีการเรียกร้องให้เร่งอนุมัติ Stablecoin ที่ผูกกับหยวน

นอกจากนี้ ในวันที่ 23 มิถุนายน สื่อของรัฐจีนอย่าง Securities Times ยังได้ตีพิมพ์บทความสนับสนุนแนวคิดนี้ โดยระบุว่า

“การพัฒนา Stablecoin ควรเกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด”

ฮ่องกงอาจกลายเป็นสนามทดลอง Stablecoin หยวน

Huang Yiping ที่ปรึกษาธนาคารกลางจีน ให้ความเห็นว่า ฮ่องกงน่าจะเป็นพื้นที่เหมาะสมในการทดลอง Stablecoin ที่ผูกกับหยวน โดยกล่าวว่า

“จีนแผ่นดินใหญ่มีข้อจำกัดด้านเงินทุนสูง จึงไม่เหมาะกับการทดลอง แต่ฮ่องกงมีตลาดเงินหยวนต่างประเทศ (offshore RMB) ซึ่งสามารถใช้สร้าง Stablecoin ได้ในอนาคต”

แนวคิดนี้สอดคล้องกับทิศทางของจีนที่พยายามผลักดันหยวนในตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะผ่านโครงสร้างแบบ off-shore ที่สามารถควบคุมความเสี่ยงได้มากกว่า

จีนแบนคริปโต แต่ถือ Bitcoin จำนวนมาก?

การขยับเรื่อง Stablecoin นี้เกิดขึ้นในขณะที่จีนยังคง “แบนการซื้อขายคริปโต” อย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่มีการปราบปรามครั้งใหญ่ในเดือนกันยายน 2021 อย่างไรก็ตาม ในชุมชนคริปโตกลับมีการตั้งข้อสังเกตว่า จีนอาจกำลังสะสม Bitcoin อย่างลับ ๆ

มีรายงานจากหลายแหล่งที่ระบุว่า จีนอาจเป็นประเทศที่ถือครอง Bitcoin มากที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก รองจากสหรัฐฯ แม้ทางการจีนไม่เคยประกาศตัวเลขการถือครองอย่างเป็นทางการก็ตาม

คดี FTX ปลุกกระแสใหม่ในจีน

กระแสคริปโตในจีนกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังเกิดประเด็น FTX คืนเงินผู้เสียหายในจีน

ในต้นเดือนกรกฎาคม ฝ่ายจัดการทรัพย์สินของ FTX ได้ยื่นคำร้องต่อศาลล้มละลายในสหรัฐฯ ขอให้ระงับการคืนเงินแก่ผู้ถือครองใน “ประเทศที่อาจมีข้อจำกัด” รวมถึง จีน ซึ่งมูลค่าการเคลมของผู้เสียหายในจีนคิดเป็น 82% ของยอดเคลมในกลุ่มประเทศที่ถูกระงับ

เหตุนี้ทำให้เกิดกระแสคัดค้านจากผู้เสียหายในจีน โดยระบุว่า

“จีนไม่เคยห้ามประชาชนถือครองคริปโต” แม้จะห้ามการซื้อขายในตลาดเปิดก็ตาม

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา หนึ่งในเจ้าหนี้ชาวจีนยื่นคำร้องคัดค้านคำสั่งดังกล่าวต่อศาล โดยระบุว่าตนเป็นตัวแทนของเจ้าหนี้กว่า 300 รายที่ต้องการเรียกคืนเงินจาก FTX

คาดว่าศาลจะมีคำตัดสินในวันที่ 22 กรกฎาคมนี้

อ้างอิง : cointelegraph.com
ภาพ linkedin.com

ข่าวที่คุณอาจสนใจ